UK University Review Vol. 12 St. George’s University, Grenada
สวัสดีค่ะ น้องๆ กลับมาพบกับพี่หนิงอีกแล้วนะคะ วันนี้เป็นโอกาสดีมากๆ เลย เพราะพี่หนิงจะพาน้องๆ ไปเที่ยวมหาวิทยาลัยที่พิเศษไม่เหมือนใคร นั่นก็คือ St. George’s University นั่นเองค่ะ ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศ Grenada (เกรเนด้า) ชื่อไม่คุ้นหูเลยใช่ไหมล่ะคะ รับรองเลยว่ามีคนได้ไปเหยียบที่นี่จริงๆ น้อยมากๆ อย่ารอช้า เราไปดูกันเลยว่าที่นี่เค้ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
เกี่ยวกับมหาวิทยาลัย St. George’s University
Credit: Freeworldmaps.net
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประเทศ Grenada กันก่อนนะคะ ที่นี่มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะค่ะ ตั้งอยู่ที่ทวีปอเมริกาใต้ แถบทะเลแคริบเบียน ถ้าคิดไม่ออก ลองนึกถึงหนังเรื่อง The Pirate of the Caribbean ดูนะคะ แต่ที่นี่ไม่มีโจรสลัดเท่านั้นเอง มีพื้นที่รอบเกาะ 348.5 ตารางกิโลเมตรและมีประชากรเพียง 112,523 คน เมืองหลวงของที่นี่ชื่อว่าเมือง St. George’s ตามชื่อของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีชื่อเล่นว่า Island of Spices หรือเกาะแห่งเครื่องเทศ ที่นี่ถือเป็นประเทศท่องเที่ยวที่ชาวอเมริกันนิยมบินมาช่วงสุดสัปดาห์ อารมณ์เหมือนเราบินไปเที่ยวที่ภูเก็ตเลยค่ะ มีทั้งทะเล ชายหาดสีขาว และวัฒนธรรมของชาวเมืองที่มีมาอย่างยาวนาน ชายหาดที่สวยที่สุดของที่นี่ ชื่อว่า Grand Anse Beach ซึ่งมีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร ชาวพื้นเมืองที่นี่แม้จะสืบเชื้อสายมาจากชาวแอฟริกัน แต่ปัจจุบันคนจะค่อนข้างไปทางอเมริกันสไตล์มากกว่าและภาษาราชการของที่นี่คือภาษาอังกฤษค่ะ ทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้หมดเลย
Credit: https://www.manorfx.com/product/east-caribbean-dollar/
ส่วนเงินที่ใช้จับจ่าย สามารถใช้เงิน US Dollars ได้ แต่สกุลเงินท้องถิ่นจริงๆ จะเป็น Eastern Caribbean dollar หรือเรียกสั้นๆ ว่า EC ค่ะ โดย 1 EC = 13.04 บาทไทย ที่นี่สามารถใช้ตู้กด ATM ได้รวมถึงใช้บัตร Credit หรือ Travel Card ได้ หรือจะเปิดบัญชีกับธนาคาร Republic Bank ก็ได้เช่นกันค่ะ
ส่วนที่ยากที่สุดและไม่พูดถึงเลยคงไม่ได้ นั่นคือการเดินทางจากประเทศไทยมาที่ Grenada ค่ะ ซึ่งพี่หนิงบอกเลยว่าโหดจริง สำหรับน้องๆ ที่ไม่ชอบนั่งเครื่องยาวๆ อาจจะมีขยาดกันไปเลย โดยเส้นทางที่พี่หนิงเลือกจะเป็น Bangkok – Doha – JFK (New York) กับสายการบิน Qatar Airways ซึ่งใช้เวลาบินทั้งหมดรวมต่อเครื่องประมาณ 25 ชั่วโมงค่ะ หลังจากมาถึงอเมริกาก็มาพักนอนหนึ่งคืนใกล้ๆ สนามบิน ก่อนที่จะเดินทางต่อโดย JetBlue ตอน 8 โมงเช้า ไปอีก 5 ชั่วโมงค่ะ ถึงจะดูนาน แต่ค่อนข้างประทับใจมาก เพราะบนเครื่องมีอินเตอร์เนตฟรีให้เล่น และก็มีน้ำมีขนมให้ทานนิดหน่อยค่ะ จนในที่สุดก็มาถึงสนามบิน Muarice Bishop สนามบินหลักของ Grenada ซักที
Maurice Bishop International Airport
มาถึงพระเอกของเราวันนี้ นั่นก็คือ St. George’s University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ มีนักเรียนอยู่ประมาณ 7,000 คนจากทุกคณะรวมกัน จุดเด่นของที่นี่คือเค้าเป็นมหาวิทยาลัยแพทย์โดยเฉพาะค่ะ โดยจะมีทั้งแพทยศาสตร์ สัตวแพทย์ พยาบาลและสาขาที่ใกล้เคียง เรียกได้ว่าเดินๆ ในมหาวิทยาลัยก็จะมีคุณหมอหรือว่าที่คุณหมอเต็มไปหมดเลยค่ะ สถิติที่น่าประทับใจของที่นี่คือเค้าเป็นมหาวิทยาลัยต่างชาติที่ผลิตแพทย์เข้าระบบในประเทศอเมริกาเยอะที่สุดในโลก และนักศึกษาที่สอบผ่าน USMLE หรือใบประกอบวิชาชีพแพทย์ที่อเมริกา Step 1 สูงถึง 95% เลย สุดยอดเลยใช่ไหมคะ
St. George’s Hall
โดยคณะที่น้องๆ คนไทยบินมาเรียนกันที่นี่ก็คงหนีไม่พ้นคณะแพทย์ค่ะ เพราะที่นี่เปิดรับสมัครน้องๆ ที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นต้นไป หรือน้องๆ ที่เรียนจบหลักสูตรอื่นมา เช่น GCSE, A-level, Foundation, IB หรือ NCEA ไปจนถึงน้องๆ ที่มีปริญญาตรีมาแล้ว โดยจะมีตั้งแต่หลักสูตร 4-7 ปี ขึ้นอยู่กับวุฒิที่จบมาค่ะ โดยหลักสูตรหลักๆ จะ based on US Curriculum ทำให้ที่นี่มีนักเรียนที่เป็น US and Canada Citizens เยอะมาก แต่เค้าก็มีวิทยาเขตย่อยที่ประเทศอังกฤษด้วยนะคะ น้องๆ สามารถเลือกได้ ว่าอยากมาเรียนที่ Grenada เลย หรืออยากไปเรียนที่ UK Campus ก่อนแล้วค่อยย้ายมาที่นี่ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีทุนให้ด้วยสูงสุดถึง 90,000 US Dollars เลย เรียกได้ว่าใจดีมากๆ เพราะทุนสำหรับคณะแพทย์นั่นหายากมาก อ้อ ที่นี่ได้รับการรับรองหลักสูตรจากทางแพทยสภาไทยเรียบร้อยนะคะ น้องๆ คนไหนที่อยากกลับมาเป็นหมอที่ประเทศไทยสบายใจได้เลย
ชายหาดใจกลางมหาวิทยาลัย
สำหรับเกณฑ์การสมัครก็ไม่ยากค่ะ แค่น้องๆ ต้องจบมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า พร้อมผลสอบ IELTS 7.0 all bands พร้อมทั้งผ่านสัมภาษณ์กับคณะ เท่านี้ก็สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ SGU Community ได้แล้วค่ะ แต่การเรียน แน่นอนว่าคณะแพทย์ค่อนข้างโหดหินมากๆ ต้องอ่าน ทำความเข้าใจ และทบทวนค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะการสอบ ที่นี่สอบบ่อยมากค่ะ ทุก 2-3 อาทิตย์เลย นักศึกษาทุกคนถูกคาดหวังว่าจะมีส่วนร่วมใน Community ต่างๆ อย่าลืมว่าคุณหมอต้องทำงานกับคนไข้ ซึ่งการสื่อสารก็สำคัญเป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ ไม่รวมถึงความเป็นมืออาชีพ ความเห็นอกเห็นใจแก่ผู้ป่วยและปัจจัยอื่นๆ นอกจากนี้ คุณหมอก็ต้องคอยหมั่นรักษาสุขภาพของตนเองให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยนะคะ
ตัวแทนมหาวิทยาลัย SGU จากหลากหลายประเทศทั่วโลก
มากล่าวถึงแผนกต่างๆ ของมหาวิทยาลัยกันบ้าง แม้ว่าถ้ามองจากภายนอกตัวตึกของที่นี่อาจจะดูเก่าไปบ้างนะคะเนื่องจากตึกทั้งหมายมีอายุหลายปีแล้ว แต่ภายในตึกแต่ละที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะเค้ามีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากๆ มาให้นักเรียนได้ใช้กันค่ะ ตัวอย่าง เช่น ห้อง Simulation ที่เรียกว่า B-Line Medical’s SimCapture Platform ที่ SGU มีเยอะที่สุดในภูมิภาคนี้เลย ทั้งตึกเหมือนจำลองมาจากวอร์ดโรงพยาบาลจริงๆ เลยค่ะ โดยแต่ละห้อง นักเรียนจะเจอเคสคนไข้แบบต่างๆ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูในห้อง Monitor อีกที รวมถึงอาจารย์และเพื่อนๆ นักเรียนสามารถดูวิดีโอย้อนหลังที่เราทำได้ เพื่อมา Discuss กัน มีตรงไหนที่เราควรแก้ไข้หรือทำให้ดีขึ้นได้ โดยคนไข้ที่เข้ามาจะเป็นนักแสดงที่ได้รับการเทรนด์มาก่อนว่าต้องจำอาการอะไรบ้าง มีหลายเคสมากๆ ไม่ง่ายเลยนะคะ
ได้มาฝึกใช้เครื่องอัลตราซาวด์ด้วย
Lecture Hall ของมหาวิทยาลัย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีการเรียนการสอนโดยใช้กล้อง VR มาช่วยด้วย เช่น การดูส่วนประกอบของอวัยวะต่างๆ แบบชัดๆ กันไปเลย มีการใช้เครื่องมือแพทย์ของจริง หุ่นจำลองแพทย์ที่สามารถแสดงอาการเหมือนคนไข้ทุกประเภท รวมไปจนถึงห้องอาจารย์ใหญ่ที่ใหญ่มากๆ ค่ะ น้องๆ จะได้เริ่มผ่ากันตั้งแต่ปี 1 เทอม 2 ของโปรแกรม MD กันเลย ถ้าน้องๆ คนไหนที่อยากเป็นหมอ บอกเลยว่าที่นี่มีครบทุกอย่างจริงๆ ค่ะ
เจ้าหน้าที่กำลังสาธิตการใช้ VR มาช่วยในการสอน
พูดถึงด้านการเรียนไปแล้ว มาดูด้านการใช้ชีวิตกันบ้าง ที่นี่มีศูนย์ Fitness Center ให้นะคะ แล้วก็มีสนามกีฬาต่างๆ ค่อนข้างครบ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล เทนนิส รวมถึงเครื่องออกกำลังกาย คลาสโยคะ พิลาทิส อย่างที่บอกไปด้านบนว่า นอกจากจะเรียนหนักแล้ว สุขภาพของเราก็สำคัญมากๆ ค่ะ หรือถ้าเราเบื่อๆ ก็ไปนั่งชิลริมทะเลอ่านหนังสือได้นะคะ ที่นี่วิวสวยมากๆ แล้วอากาศก็ใกล้เคียงบ้านเราค่ะ อย่าลืมพกครีมกันแดดกันไปเยอะๆ ถ้าไม่อยากหน้าไหม้เหมือนพี่หนิงนะคะ แหะๆ
Andrew J. Belford Centre มี Fitness Centre อยู่ที่ตึกนี้
เพื่อนร่วมทริปของเรา จาก Botswana, กรีซ และอิตาลีค่ะ
อีกส่วนที่สำคัญและขาดไม่ได้เลย คือ International Office ค่ะ แน่นอนว่าการไปเรียนในประเทศใหม่ๆ เจอเพื่อน อาจารย์ใหม่ๆ ย่อมทำให้เราเกิดความประหม่ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต เจ้าหน้าที่จาก International Office จึงมีส่วนสำคัญมากๆ ที่จะช่วยดูแลน้องๆ ให้ปรับตัวอย่างสมูทที่สุดค่ะ หากมีเรื่องอะไร ก็สามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเรียน การเงิน สุขภาพ ไปจนถึงการวางแผนการทำงานในอนาคต ทุกคนที่นี่น่ารักและเต็มใจมากๆ พี่หนิงก็ประทับใจมากๆ ค่ะ รู้สึกจากใจจริงเลยว่าเค้าน่ารักและพร้อมช่วยเหลือจริงๆ อีกอย่างคือเค้าเปิดกว้างมากๆ ไม่ว่าเราจะมาจากประเทศอะไร กิจกรรมทุกวันศุกร์คือเค้าจะให้นักเรียนมารวมตัวกันทำอาหาร หรือมาแชร์วัฒนธรรมของแต่ละประเทศด้วยกัน สามารถซื้อของมาแชร์ด้วยกันได้
มาถึงส่วนสุดท้าย นั่นก็คือ Student Accommodation ค่ะ มหาวิทยาลัยจะการันตีหอพักในมหาวิทยาลัยให้กับนักเรียนที่เพิ่งเดินทางมาที่ Grenada ในปีแรก ส่วนปีต่อๆ ไป สามารถไปหาหอนอกอยู่เองได้ค่ะ โดยห้องจะมีตั้งแต่ห้องนอนเดี่ยว ห้องคู่ ไปจนถึงห้อง 3 คนค่ะ แต่ห้องนอนจะเป็นห้องเดียว แล้วแชร์ส่วนครัวกับห้องน้ำด้วยกัน ที่นี่มีหลากตึกนะคะ แนะนำว่าให้จองหอตั้งแต่เนิ่นๆ จะดีที่สุด แต่สำหรับน้องๆ ที่อยู่หอนอก ก็ไม่ต้องเห็นห่วง เพราะมหาวิทยาลัยมีรถ Shuttle Bus คอยไปรับน้องๆ ตามจุด Pick up รอบๆ เมืองค่ะ
ตัวอย่างห้องนอนของมหาวิทยาลัย เป็นห้องแบบแชร์ห้องน้ำนะคะ แชร์กับเพื่อนๆ อีก 2 คน
ส่วนอาหารการกิน ในมหาวิทยาลัยจะมี Convenient Store เล็กๆ อยู่นะคะ แต่ถ้าใครอยากซื้อของใช้ ผักสด หรือเนื้อสัตว์ต่างๆ สามารถไปซุปเปอร์มาเก็ต IGA ได้ค่ะ มีของค่อนข้างครบ กระซิบว่าปลาที่นี่สดมาก อร่อยมากๆ ค่ะ
ซุปเปอร์มาเก็ตหลักของเมือง St. George’s
ซุปเปอร์มาเก็ตหลักของเมือง St. George’s
ส่วนเรื่องความปลอดภัย บอกเลยว่าหายห่วง เพราะที่นี่เค้าบอกเลยว่าเค้ามี Zero Crime ยิ่งในมหาวิทยาลัยก็ยิ่งปลอดภัยมากๆ เพราะมีทางเข้าแค่ทางเดียว ต้องโชว์ ID และมี Security Guards เดินเฝ้าตลอดค่ะ แอบกระซิบว่ามีหน่วย K-9 ด้วยนะ แต่ยังไง ถ้าต้องไปไหนดึกๆ ก็หาเพื่อนไปด้วย หรือระวังตัวเราไว้ก่อนดีที่สุดนะคะ
ขากลับเราก็นั่ง JetBlue กลับนิวยอร์คกันค่ะ
จบกันไปแล้วกับการรีวิวมหาวิทยาลัย St. George’s Grenada เป็นประเทศที่น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยนะคะ ต้องบอกว่าแม้จะเดินทางไกลที่ใช้เอเนอจี้ไปค่อนข้างเยอะ แต่ผลลัพธ์ก็เป็นที่น่าพอใจมากๆ เพราะคนบ้านเค้าน่ารักสุดๆ และพร้อมช่วยเหลือทำให้ประทับใจกับการเดินทางมากๆ แม้จะอยู่ไกล แต่บรรยากาศอบอุ่นมากค่ะ ไว้ถ้าพี่หนิงได้ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยไหนอีกโอกาสหน้า อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ สำหรับวันนี้ พี่หนิงต้องลาไปก่อน สวัสดีค่ะ
บรรยากาศยามเย็นจากชายหาดที่ Grenada