UK University Review Vol.3 University of East Anglia
ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรีข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่หนิงอีกแล้วนะคะ เดินทางกันมาถึง EP3 แล้ว วันนี้พี่จะพามาชมมหาวิทยาลัยที่ 3 ที่พี่แอบปลื้มเป็นพิเศษเลย นั่นก็คือมหาวิทยาลัย UEA หรือ University of East Anglia นั่นเองค่ะ ที่นี่นอกจากจะบรรยากาศดีน่าเรียนแล้ว เค้ายังเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง The Avengers: Age of Ultron ด้วยนะคะ เจ๋งมากๆ แต่ยังไม่บอกว่าเป็นฉากไหน เดี๋ยวเราไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
ก่อนอื่น ขอเล่าเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย UEA ซักนิดว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1963 ตั้งอยู่ที่เมืองเงียบสงบอย่างเมืองนอริช (Norwich) ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอังกฤษ ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในสหราชอาณาจักร ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 17,000 คน และมีคนไทยไปเรียนที่นี่รวมทุกระดับเฉลี่ยประมาณ 70-100 คนต่อปีค่ะ คิดเป็น 1% ของนักเรียนทั้งหมด
หน้าห้าง intu Chapelfield ห้างใหญ่ในเมือง Norwich
แม้ว่าในประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อมหาวิทยาลัย UEA เท่าไหร่ แต่จริงๆ ที่นี่มีความสัมพันธ์อันดีกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในไทยด้วยนะคะ หากน้องๆ ที่เรียนจบจากคณะกฎหมายจากธรรมศาสตร์แล้วไปเรียนต่อ Master of Laws ที่นี่ จะได้รับส่วนลดค่าเรียนสูงถึง 10%-50% เลยค่ะ
ความโดดเด่นทางด้านวิชาการของที่นี่ก็ไม่ธรรมดาค่ะ เพราะปี 2019 นี้ UEA ได้ถูกจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่ 14 ของประเทศ ดังมากในสาขาวิชา Economics, Business Management, Marketing, International Development, Law, Health Science, Pharmacy, Medicine เรียกได้ว่าเกือบทุกแขนง ยกเว้นคณะเดียวที่ที่นี่ไม่มี ก็คือ Engineering นั่นเองค่ะ >w< คอร์สเรียนที่น่าสนใจของที่นี่นอกจากโปรแกรมทั่วไปแล้ว ที่นี่ยังเป็น 1 ในไม่กี่มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนคอร์สด้าน Actuarial Science หรือคณิตศาสตร์ประกันภัยด้วย ในประเทศไทยจะมีแค่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยมหิดลเท่านั้นที่เปิดสอนวิชานี้ บอกเลยว่าเป็นสาขาที่คนเรียนไม่เยอะแต่เงินเดือนเริ่มต้นดีมาก หากน้องๆ คนไหนที่ชอบเรียน Math และ Physics แต่ไม่อยากเรียน Accounting หรือ Finance วิชานี้ก็เป็นอีกสาขาที่น่าสนใจค่ะ
การเดินทางไปที่เมือง Norwich หากมาจากประเทศไทยส่วนใหญ่เราจะบินไปลงที่ London Heathrow Airport พี่แนะนำให้นั่งรถโค้ชจากสนามบินมาเลย ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง มาจอดที่กลางมหาวิทยาลัยเลยค่ะ เพราะถ้านั่งรถไฟจะต้องเปลี่ยนขบวนเยอะมากและจะเหนื่อยมากค่ะ หรือถ้าน้องๆ คนไหนที่เรียนคอร์ส Pathway กับ Pre-sessional ของมหาวิทยาลัย สามารถจองรถรับส่งของ INTO ให้ไปรับได้นะคะ สะดวกและปลอดภัยสำหรับน้องๆ ที่เดินทางครั้งแรกค่ะ
รถเมล์มาจอดในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ สาย 25 และ 26
มาถึงมหาวิทยาลัยกันแล้ว พี่จะพาไปชมตึก INTO กันก่อนค่ะ ที่นี่เค้าจะทำหน้าที่คล้ายๆ International College ที่สอนคอร์ส Pathway และ Pre-sessional English สำหรับน้องๆ ที่ต้องมาปรับเกรดหรือปรับภาษากันก่อน ไม่ว่าจะเป็นคอร์ส Foundation/International Year One ของปริญญาตรี หรือ Pre-master ของปริญญาโทค่ะ จะเรียนที่ตึกนี้หมด รวมไปถึงน้องเล็กโปรแกรม Newton A-Level ก็เรียนที่นี่เช่นกันค่ะ
ด้านหน้าตึก INTO เลยวงเวียนมหาวิทยาลัยมานิดนึงค่ะ
เดินเข้ามาจะเจอกับโต๊ะเก้าอี้หลากสีแบบนี้ น่ารักสดใสดีค่ะ
มี Coffee Shop เล็กๆ อยู่ด้านหลัง
ที่นั่งจะเป็นสีๆ แบบนี้ทั้งตึกเลยค่ะ
ทางเข้า Lecture Theatre และ Resources Centre
เดินเข้ามาในตึกจะเจอกับ Reception และ Coffee Shop ก่อนเลย เวลาเช้าๆ ก็มานั่งทานกาแฟตรงนี้ได้ ซื้อน้ำซื้อขนมก่อนเข้าเรียน เดินต่อมาทางขวาจะเจอทางเข้า Lecture Theatre และ Resources Centre ค่ะ ห้อง Lecture Theatre จะเป็นคล้ายๆ ห้องประชุมขนาดเล็กที่ไว้ทำกิจกรรมกัน ไม่ว่าจะเป็นดูหนัง ฟังเพลง กิจกรรมนันทนาการต่างๆ จะทำที่ห้องนี้ค่ะ ส่วน Resources Centre เรียกง่ายๆ ก็คือห้องสมุดย่อยที่จะมีหนังสืออ่านนอกเวลาและ DVD หนังต่างๆ ให้นักเรียนไปยืมได้ มีโต๊ะไว้ให้นักเรียนมานั่งประชุม ทำการบ้านกัน แล้วก็มี Computer Pool ให้ด้วยค่ะ
หนังสืออ่านนอกเวลาเต็มเลย มีตั้งแต่ Beginner ไปจนถึง Advance เลยค่ะ
DVD หนังให้ยืมเพียบบ
มานั่งเล่นคอม อ่านหนังสือชิวๆ ในนี้ได้เลย
พิมพ์เอกสารต่างๆ โดยเติมเงิน (Top Up) ใส่บัตรนักเรียนของเรา
เดินขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอกับโรงอาหารหรือ Canteen ค่ะ ที่นี่เค้าบอกเลยว่าไม่ต้องกลัวว่าจะมีแต่อาหารฝรั่ง เพราะทุกวันเค้าจะมีข้าวกับหมี่ผัดให้น้องๆ สายเอเชียอยู่แล้วค่ะ แต่จะถูกปากหรือไม่ อันนี้เป็นความชอบส่วนบุคคลเลยค่ะ พี่หนิงแนะนำเลยว่าก่อนไปเรียนให้น้องๆ ไปฝึกทำอาหารกันไว้บ้างก็จะดีไม่น้อยค่ะ หรือถ้าใครที่สกิลทำอาหารอ่อนมากแบบพี่ ToT ก็อาจจะขอให้เพื่อนทำแล้วเราล้างจานก็ได้ค่ะ อิอิ ^^
Canteen ที่ตึก INTO ค่ะ
ไปตอนเค้าเก็บร้านพอดีเลย 555
เมนูอาหารต่างๆ
ตึก INTO มีทั้งหมด 6 ชั้นค่ะ ชั้นบนๆ ก็จะเป็นห้องเรียนมากมาย มีทั้งห้องเรียนธรรมดาและห้อง Lab สำหรับน้องๆ ที่เรียนสาย Sciences ด้วย น้องๆ จะได้ใส่ชุดกาวน์และทำการทดลองกันจริงๆ เลย เค้าจะมีติวพิเศษให้ด้วยช่วงหยุดปิดเทอมค่ะ ถ้าใครที่ไม่ได้กลับบ้านหรือไปเที่ยวไหน ก็ไปติวกับอาจารย์ได้นะคะ วันที่ไปเจอน้องคนไทยด้วย มาเรียนโปรแกรม A-Level เพื่อที่จะเข้าคณะแพทย์ที่ UEA เก่งมากๆ เลยค่ะ
ห้องเรียนภายในตึก ห้องนึงเค้าจะให้มีนักเรียนไม่เกิน 17 คนค่ะ
จะได้รับ Attention เท่าๆ กันทุกคน
มีที่ให้นั่งเม้ามอยเยอะมากค่ะ (เค้าให้นั่งทำการบ้านรึเปล่า 555)
ข้อดีของตึก INTO ที่ UEA คือตึกเรียนและหอพักอยู่ในตึกเดียวกันค่ะ ถ้าอายุไม่ถึง 18 จะต้องพักที่นี่ จะมีโซนหอพักให้น้องๆ โดยเฉพาะเลย แล้วก็มีเช็คชื่อทุกวันด้วย จะมีเจ้าหน้าที่คอย Stand by ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ปกครองก็สบายใจได้ค่ะ ส่วนถ้าน้องที่อายุโตขึ้นมาหน่อย ก็สามารถเลือกอยู่หอของมหาวิทยาลัยได้ ซึ่งก็จะมีกระจายๆ กันไปในตัวมหาวิทยาลัยค่ะ
เดินออกจากตรงนี้ไปที่ Courtyard ด้านหลัง จะเป็นหอพักค่ะ
Office เล็กๆ ด้านขวาจะเรียกว่า Courtyard Office ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ เวลามีปัญหาอะไร หรือว่างๆ ก็มาคุยเล่นกับเจ้าหน้าที่ที่นี่ได้ เค้าจะมีจัดทริปไปทำกิจกรรมต่างๆ นอกมหาวิทยาลัยเยอะแยะเลย น้องๆ ต่างชาติจะชอบมานั่งเล่นที่นี่มาก แต่เจ้าหน้าที่บอกว่านักเรียนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างขี้อายค่ะ เลยอาจจะไม่ค่อยกล้าเข้ามาคุยกับเค้า ถ้าใครไปเรียนที่นี่ก็แวะไปทักทายเจ้าหน้าที่ได้นะคะ เค้าใจดีมากๆ และก็ยินดีช่วยเหลือเราทุกอย่างค่ะ
หอพักของนักเรียน INTO ค่ะ
ข้อดีของหอพักของ INTO นอกจากจะดีสำหรับน้องๆ อายุต่ำกว่า 18 แล้ว คือหอพักเค้าจะมีคนเข้ามาทำความสะอาดให้ด้วยค่ะ ทุกวันตอน 9 โมงเหมือนโรงแรมเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะขี้เกียจทำความสะอาด 555 แล้วก็ลืมบอกไปว่าหอพักจะเป็นแบบ En-suite ทั้งหมด คือเป็นห้องนอนเดี่ยว มีห้องน้ำในตัวไม่ต้องแชร์กับคนอื่น จะมีแค่ส่วน Common Area ห้องครัวที่แชร์กับเพื่อนๆ ประมาณ 8 คนค่ะ
หอพักจะแบ่งเป็นโซนๆ
ห้องพักขนาดมาตรฐานนักเรียนอังกฤษ ไม่ใหญ่ไป ไม่เล็กไปค่ะ
หลังจากทัวร์ตึก INTO กันอย่างจุใจแล้ว เราไปดูส่วนอื่นๆ ของมหาวิทยาลัยกันบ้างดีกว่าค่ะ ไฮไลท์ของมหาวิทยาลัยเลยก็จะมี Sportspark ที่ขนาดใหญ่มากกกกกกถึงขนาดที่คนในเมืองก็ยังมาใช้บริการค่ะ 55 เพราะมีกีฬาให้เล่นเยอะมากจริงๆ ที่พีคเลยคือสนามกรีฑาขนาดใหญ่และสระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิก ทั้งฟิตเนส กีฬา Outdoor & Indoor ที่นี่มีหมดค่ะ ค่าสมาชิกก็ถูกมากๆ ตกปีละ 150 ปอนด์ต่อปีเท่านั้นเอง มาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีกันค่ะ
ป้ายด้านหน้าตึก
ภายในอาคาร Sports Park
สนามกรีฑาด้านนอก ใหญ่มากค่ะ
มาต่อกันที่ตึกถัดไป เราเจอทั้งตึก Norwich Business School และ Norwich Medical School เลยอยู่ติดกันค่ะ ด้วยความที่มหาวิทยาลัย UEA มีลักษณะเป็น Full Campus ทำให้ทุกคณะอยู่ที่ใกล้ๆ กัน ในวิทยาเขตเดียวกัน รวมไปถึงห้องสมุด หอพัก และ Student Union อยู่ในพื้นที่เดียวกันทั้งหมดค่ะ
บริเวณภายในมหาวิทยาลัย
Norwich Business School
Norwich Medical School
Julian Study Centre มี ห้อง Lecture ขนาดใหญ่แล้วก็ห้อง Seminar ค่ะ
Congregation Hall หรือเรียกว่า C Hall ไว้จัดงานรับปริญญาหรืองานพิธีต่างๆ ค่ะ
ตรงนี้จะเรียกว่า The Square อยู่กลางมหาวิทยาลัย เป็นจุดรวมตัวของนักศึกษา
Waterstones ร้านขายหนังสือใน UEA ค่ะ
ใกล้ๆ กับ The Square จะมีร้านอาหาร บาร์ และผับอยู่ในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ คนที่มาร่วมก็เป็นนักศึกษากันเอง ไม่อันตรายค่ะ เวลาวันหยุดเสาร์อาทิตย์เค้าก็จะมาเปิดร้านขายขนมแบบนี้ด้วย ดีงามมากค่ะ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเคยจัดคอนเสิร์ตที่นักร้องชื่อดังมาร่วมด้วยนะคะ มีทั้ง Taylor Swift, One Direction, Ed Sheeran เป็นต้นค่ะ
ภายใน Student Union
น่ากินทั้งนั้นเลยยยย
ปิดท้ายกันด้วยตัวตึกที่อุปไว้ตั้งแต่ต้น ก็คือตึกที่เป็นสถานที่ถ่ายทำในภาพยนตร์ The Avengers: Age of Ultron นั่นเอง ตึกนี้มีชื่อว่า Sainsbury Centre for Visual Arts ค่ะ เป็นทั้ง Art Gallery และ Museum ที่ตั้งอยู่ในตัวมหาวิทยาลัยเลย ตัวตึกออกแบบโดนนักสถาปนิกชื่อดัง คุณ Norman Foster และ Wendy Cheesman นั่นเองค่ะ โดยงานส่วนใหญ่ที่โชว์อยู่ที่นี่จะเป็นของสะสมของ Sir Robert Sainsbury และ Lady Lisa Sainsbury ที่บริจาคให้กับทางมหาวิทยาลัยกว่า 300 ชิ้น
ทางเข้าของตึก
มุมนี้คุ้นๆ กันไหมคะ
ภายในอาคารมีงานอาร์ตโชว์ไว้เยอะมากจริงๆ ค่ะ
ตึกหอพัก Ziggurat ที่เป็นเหมือน Signature ของ UEA
Norwich Railway Station
จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับการรีวิวมหาวิทยาลัย University of East Anglia อาจจะมีขาดตกหล่นตรงไหนไปบ้าง ต้องขอโทษน้องๆ ด้วยนะคะ ถ้ามีโอกาสไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยครั้งหน้า จะนำข้อมูลที่เป็นน่าสนใจกลับมาฝากกันอีก ต้องเตรียมเดินทางต่อไปยังเมืองต่อไปแล้ว จะเป็นเมืองและมหาวิทยาลัยอะไรนั้น อย่าลืมมาช่วยกันติดตามอาทิตย์หน้านะคะ วันนี้พี่หนิงลาไปก่อน สวัสดีค่ะ 😀