AUS University Review Vol. 1 University of Sydney

ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรี ข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท

สวัสดีค่ะ น้องๆ พี่หนิงกลับมาแล้วกับการทัวร์มหาวิทยาลัยในต่างแดน วันนี้พี่หนิงจะพาน้องๆ ไปเที่ยวแดนจิงโจ้กันค่ะ ใช่แล้ว ประเทศออสเตรเลียนั่นเองค่ะ สำหรับที่อาจจะยังไม่คุ้นชินหรือหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้อยู่ พี่หนิงมีข้อมูล ออสเตรเลีย 101 คร่าวๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ

แผนที่ประเทศ Australia

ประเทศหรือทวีป

ออสเตรเลียมีพื้นที่เป็นเกาะที่ใหญ่มว๊ากกกกกกกกก จนกลายเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีป Oceania เลยค่ะ โดยในทวีปนี้จริงๆ มีหลายประเทศนะคะ โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกาะเล็กๆ แต่ที่น้องๆ น่าจะรู้จักก็คือประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นั่นเองค่ะ โดยประเทศออสเตรเลียมีการแบ่งการปกครองเป็นแบบรัฐ แต่ละรัฐก็จะมีเมืองใหญ่ๆ คุ้นหูเรา เช่น รัฐวิคตอเรีย มีเมืองเมลเบิร์น รัฐควีนส์แลนด์ มีเมืองบริสเบน และรัฐนิวเซ้าเวลส์ก็จะมีเมืองซิดนีย์นั่นเองค่ะ ชื่อมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็จะอิงกับชื่อเมืองเหล่านี้ด้วย เช่น University of Sydney นั่นเอง

การเดินทางจากประเทศไทย

สมัยนี้การเดินทางไปออสเตรเลียไม่ยากเลยค่ะ เพราะมีเที่ยวบินตรงไปลงซิดนีย์กับเมลเบิร์นเลย โดยสายการบินที่พี่หนิงนั่งไปจะเป็นของ Air Asia ค่ะ เพราะว่าประหยัด แล้วก็บินตอนกลางคืน ไปถึงก็เช้าพอดี แต่ต้องบอกว่าถ้าใครชอบแบบเดินทางสบายๆ หน่อย เลือกเป็นแบบ full service อย่างการบินไทย Qantas (สายการบินประจำชาติออสเตรเลีย) หรือสิงคโปร์แอร์ไลน์ (ต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่สิงคโปร์) ก็ได้ค่ะ เพราะจะมีอาหารและที่นั่งจะค่อนข้างสบายกว่า

เวลา Time Zone

เวลาของที่ออสเตรเลียจะห่างจากไทยประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ แล้วแต่เมืองที่เราไป เพราะอย่างที่บอกว่าประเทศเค้าใหญ่มาก คนละเมืองก็อาจจะคนละไทม์โซนได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้ห่างมาก ถ้าเทียบกับประเทศฝั่งยุโรปหรืออเมริกาค่ะ ทำให้การคุยกับคนที่ไทย เวลาไม่ต่างมากนัก

ผู้คนและวัฒนธรรม

ผู้คนของชาวออสเตรเลียจริงๆ มีเชื้อสายที่ค่อนข้างหลากหลายค่ะ แต่เดิม ผืนดินนี้จะมีชาว Aboriginal มาอยู่ก่อน ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาจากแอฟริกากว่าเจ็ดหมื่นปีมาแล้ว จนกระทั่งกัปตัน James Cook จากอังกฤษได้มาเจอและเคลมเป็นของ Great Britain ไปในปี 1770 หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องราวมากมาย ทั้งการนำนักโทษจากอังกฤษมาไว้ที่ออสเตรเลีย สงครามโลก จนออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีผู้คนย้ายถิ่นฐานมาจากหลายๆ ที่โดยเฉพาะจากชาติยุโรป รวมถึงชาวเอเชียด้วย ซึ่งอาจจะเป็นจุดแข็งของชาติ ที่เปิดรับวัฒนธรรมและมีความยืดหยุ่นมาก โดยมุ่งหวังให้คนในชาติมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีระเบียบค่ะ คนออสซี่จึงมีความเป็นมิตร สบายๆ แต่ก็ยึดกฏระเบียบและไม่ละเมิดสิทธิ์อันพึงมีของกันและกันค่ะ

มาต่อกันที่มหาวิทยาลัย University of Sydney มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และเป็นสมาชิกกลุ่ม Group of Eight มหาวิทยาลัย 8 แห่งที่เน้นในเรื่องการทำวิจัย (อ่านต่อ เกี่ยวกับ Go8 คลิ๊ก) ทำให้มหาวิทยาลัยติดอันดับที่ 41 ของโลกในปี 2023 นี้ค่ะ

พี่หนิงกับพี่บีไปถึงมหาวิทยาลัยโดยนั่ง uber จากไชน่าทาวน์ไป ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีค่ะ เพราะใกล้มากและรถก็ไม่ค่อยติด มาถึงที่ตึก Wentworth Building ก่อนเลย ซึ่งตึกนี้จะอยู่ฝั่ง Darlington Campus ค่ะ ฝั่งนี้จะเป็นบ้านของ Business School, Engineering Faculties ที่น่าตกใจคือหอพัก Scape อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ใกล้สุดๆ มีร้านอาหาร กาแฟ ร้านขาย Merchandise ของมหาวิทยาลัย เติมเงินบัตร Opal ที่นี่ได้ด้วยนะคะ แล้วก็มีร้านชานมไข่มุกด้วย คุณ Elaine ที่เป็นเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย มาเจอเราที่ตึกนี้ เพื่อจะพาชมรอบๆ ค่ะ เดินขึ้นบันไดมาด้านบนจะเจอกับ Student Center ก่อนเลย ตรงนี้จะเป็นที่ๆ นักศึกษาใหม่ มาลงทะเบียนเรียน แล้วก็ถามข้อมูลต่างๆ เช่น จ่ายค่าเรียน การเอาบัตรประกันสุขภาพ และทุกเรื่องที่เราทำไม่ได้ ก็มาหาเจ้าหน้าที่ที่นี่ได้เลยค่ะ

เดินเข้าไปในตึก ก็จะเจอกับร้านน้ำผลไม้ แต่ไม่ใช่ Boost นะคะ อิอิ แล้วก็มีธนาคาร Commonwealth อยู่ในนี้เลย มาปฐมนิเทศเสร็จ ก็เปิดบัญชีธนาคารได้เลยค่ะ ถัดไปก็มีทั้งร้านขายโทรศัพท์ ซิมการ์ด ร้านตัดแว่น คลินิก เดินขึ้นไปข้างบนก็จะเจอ International Student Lougne ค่ะ เด็กๆ ก็จะมานั่งกินข้าว เม้ามอยกันที่นี่

เดินไปทางด้านหลังตึก จะมีทั้ง Abercrombie Building ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Business School ค่ะ ประทับใจตึกนี้มาก เพราะสวยยยยย แล้วก็ใหญ่ มีหลายชั้นมากค่ะ โดย Auditorium จะอยู่ข้างล่าง ชั้น 1 จะเป็นห้อง Meeting and Computer pools มีทั้ง 4 ทิศเลยค่ะ ข้างบนก็จะเป็นพวกห้องเรียน ห้องประชุมต่างๆ มีคาเฟ่อีกเช่นกัน

น้องนักเรียนของเรา

รอบๆ ตรงข้ามกันก็จะมี Sport and Aquatic Center ค่ะ ต้องบอกว่าศูนย์เหล่านี้จะเปิดให้คนภายนอกมาใช้ได้นะคะ แต่ก็จะมีค่า Membership ซึ่งถ้าเป็นนักเรียนก็จะได้เรตที่ถูกกว่าค่ะ รวมไปถึงการเดินทาง พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ก็จะมีเรตราคาที่เป็นของนักเรียน (Concesshion Rate) เราสามารถลองเช็คดูก่อนได้ค่ะ

เดินมาที่อีกฝั่งกันบ้าง กับ Camperdown Campus ซึ่งจริงๆ ก็คือข้ามถนนมาค่ะ มีสะพานให้คนข้ามได้เลย ฝั่งนี้จะเป็นฝั่งตึกเก่า ซึ่งก็จะมีตึก The Quadangle ที่สวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเลย แม้แต่นักท่องเที่ยวก็มีมาถ่ายรูปที่นี่นะคะ สวนข้างหน้าก็สวยมากๆ ถ้าอากาศดี จะเห็นนักศึกษามานั่ง นอนชิวกันตรงนี้เลยค่ะ ฝั่งนี้จะมีทั้งตึก Chancellor ซึ่งเป็นของผู้บริหารมหาวิทยาลัย The Great Hall ที่เป็นทั้งที่จัดงานปฐมนิเทศและงานรับปริญญา รวมถึงคณะต่างๆ เช่น Law, Medicine, Health Science, Chemistry แล้วก็มี Chau Chak Wing Museum อยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ

The Faculty of Medicine

ตึก The Quadangle ที่ได้รับอิทธิพลมาจาก University of Oxford ประเทศอังกฤษ ตอนพี่หนิงไป เค้าสั่นระฆังพอดี ความพิเศษคือเพลงที่เค้าเล่นคือเพลงเซเลอร์มูนนนนนนนน น่าร๊ากกกกก

ตึกของ Law School สวยมากค่ะ

พี่บี คุณอีเลน พี่หนิง

เรียกได้ว่ามหาวิทยาลัยมีสถาปัตกรรมทั้งแบบคลาสสิกมากๆ และโมเดิร์นสุดๆ และขนาดก็ใหญ่มากด้วยค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยมีนักเรียนที่ลงทะเบียนต่อปีสูงถึง 73,000 คนเลยทีเดียว เยอะมว๊ากกกกกกกก พี่หนิงเชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ มุมของมหาวิทยาลัยที่ยังไม่ได้ไปสัมผัส แล้วก็น่าจะประทับใจมากทีเดียว ยังไม่รวมถึงความน่าอยู่ของเมืองซิดนีย์เอง ที่บอกเลยว่าสะดวกสบายสุดๆ ไม่แออัด แล้วก็อากาศดีมากๆ มีที่เที่ยวเยอะ ทั้งในเมืองและนอกเมือง ปิดท้ายด้วยรูปมุมต่างๆ ของเมืองซิดนีย์ว่าจะน่าอยู่แค่ไหน ไปดูกันเลยค่า

พิเศษ สำหรับน้องๆ คนไหนที่สนใจอยากมาเรียนที่นี่ เค้ามีทุนการศึกษาให้นักเรียนไทยด้วย ลดค่าเรียนสูงสุดถึง 20% กันไปเลย หากสนใจข้อมูล ก็สามารถสอบถามพี่ๆ EFL กันเข้ามาได้ค่ะ เพราะเราคือตัวแทนของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการของประเทศไทย มหาวิทยาลัยถัดไปที่พี่หนิงกับพี่บีจะไปเยี่ยม ตั้งตารอกันได้เลยนะคะ

Circular Quay, Sydney Opera House