UK University Review Vol.2 University of Southampton
ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรีข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท
สวัสดีค่า น้องๆ กลับมาพบกับพี่หนิงอีกแล้วนะค้า ต่อจาก EP ที่แล้วที่เราไปเยี่ยมชม University of Reading กัน หวังว่าน้องๆ จะสนุกและได้เห็นภาพมหาวิทยาลัยกันมากขึ้นนะคะ วันนี้พี่หนิงจะพามาชมอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่ได้รับความนิยมจากน้องๆ คนไทยอีกแห่ง ที่นั่นก็คือ University of Southampton นั่นเองค่า แต่น แตน แต๊นนน 😀 ซึ่งคณะที่ป็อบมากๆ ก็คงหนีไม่พ้น Southampton Business School ที่มีคอร์สบริหารธุรกิจมากมายหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น International Management, Digital Marketing, Entrepreneurship ที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากๆ แถมยังมีทุนการศึกษาลดค่าเรียนให้น้องๆ ที่ได้เกรด 2.80 ขึ้นไป ตั้งแต่ 3,000 – 5,000 ปอนด์กันเลยทีเดียว ยังไม่หมดแค่นี้!! ที่นี่เค้ายังยกเว้นการสอบ IELTS ให้กับน้องๆ ที่เรียนจบจากโปรแกรมอินเตอร์* อีกด้วย เรียกว่าเอาใจนักเรียนไทยสุดๆ
แต่รู้หรือไม่ ยังมีอีกหนึ่งคณะที่ได้รับความนิยมและอันดับดีไม่แพ้กัน ก็คือ Engineering นั่นเองค่ะ โดยเฉพาะ Civil Engineering และ Mechanical Engineering ของ Southampton อยู่อันดับ Top 5 ของประเทศอังกฤษเลยนะ นอกจากนี้ยังมี Computer Sciences, Electrical and Electronic Engineering ก็เก่งไม่แพ้กัน พูดได้ว่าถ้าเป็นสายวิศวกรรมศาสตร์ Southampton ก็เป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของอังกฤษเลยล่ะค่ะ
เกริ่นกันมาเยอะแล้ว เราไปชมมหาวิทยาลัยกันดีกว่าค่ะ ว่าบรรยากาศเป็นยังไง มี Facilities อะไรให้นักศึกษาบ้าง
เราจะเริ่มออกเดินทางจากที่ Reading ไปที่ Southampton โดยรถไฟกันค่ะ เนื่องจาก Southampton กับ Reading อยู่ใกล้ลอนดอนกันทั้งคู่ ทำให้การเดินทางใช้เวลาไม่นาน นั่งแค่สายเดียวก็ถึงโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ แต่ถ้าน้องๆ ที่เดินทางมาจากประเทศไทย พี่แนะนำให้นั่งรถโค้ชของมหาวิทยาลัยจากสนามบิน Heathrow มาลงที่ Southampton ได้เลยนะคะ ทั้งฟรีและมีบริการทั้งช่วงเปิดเทอมใหญ่และ Pre-sessional เลย ถ้าน้องๆ คนไหนไม่แน่ใจว่าจะจองรถรับ-ส่งยังไง ถามพี่ๆ EFL ได้เลยค่ะ
สถานีรถไฟที่ Reading
มาซื้อตั๋วกันก่อน
ชานชาลาที่ Reading ก็ใหญ่อยู่นะ
รถไฟมาแล้ว ออกเดินทางกันเลย
หลังจากที่นั่งรถไฟมาประมาณ 50 นาที เราก็มาถึงที่เมือง Southampton กันแล้วค่ะ เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญของประเทศอังกฤษมากๆ แม้ว่าตัวเมืองจะมีขนาดกลางๆ ค่อนข้างเงียบสงบ มีประชากรแค่ 250,000 คน แต่เนื่องจากลักษณะภูมิศาสตร์เป็นอ่าว เวลาบริษัทขนส่งสินเค้าต่างๆ ที่มาทางเรือก็จะต้องมาจอดที่เมืองนี้ นอกจากเป็นอ่าวขนส่งสินค้าแล้ว ยังเป็นท่าเรือ Cruise ships ด้วย เราสามารถนั่งเรือ Ferry จากที่นี่ไปเที่ยวฝรั่งเศสได้เลย แถมยังมีสนามบิน Southampton Airport เป็นของตัวเองอีกด้วย ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมคะ
รู้หรือไม่: Southampton เป็นเมืองท่าเรือที่ Titanic มาจอด ก่อนที่จะออกเดินทางไปที่ New York เมื่อวันที่ 10 เมษายน 1912
ด้านข้างของ University of Southampton ฝั่ง University Road
ป้ายมหาวิทยาลัยสวยเด่นเป็นสง่า
รู้หรือไม่: เรียก University of Southampton มันยาวไป เรียกชื่อเล่นสั้นๆ ว่า Soton (โซตั้น) ก็ได้ค่ะ
มาถึงมหาวิทยาลัยกันแล้ว ฝั่งนี้จะเป็นฝั่งด้านข้างเรียกว่า University Road ค่ะ จะอยู่ใกล้กับตึก Business เลย เดินได้ไม่ไกลมาก ถ้าเราเดินไปด้านซ้ายอีกนิดจะเจอป้ายรถเมล์ Jubilee Sports Hall ของเมือง Southampton มาจอดที่หน้ามหาวิทยาลัยกันเลยทีเดียว
รถเมล์ที่นี่จะมีชื่อเรียกว่า Unilink โดยจะมี 5 สายหลักๆ คือ U1, U1N, U2, U6 และ U9 เหมือนน้อยใช่ไหมละคะ แต่จริงๆ แต่ละสายก็จะมีแยกย่อยไปอีกเป็น U1A, U1W, U1C แบบนี้ ซึ่งจะจอดป้ายย่อยๆ ต่างกันนิดหน่อย วิธีดูที่ง่ายที่สุดคือโหลด Application มาไว้เช็คเวลาของรถและเส้นทางที่รถจะไปจอดค่ะ บอกเลยว่ารถเมล์ที่อังกฤษเนี่ย ตรงเวลามากๆ ที่สำคัญคือเราต้องจำให้ได้ว่าป้ายของเราชื่ออะไรและจะไปลงที่ป้ายไหนค่ะ รถเมล์สายหลักจะจอดที่สถานที่สำคัญๆ เช่น สถานีรถไฟ, ห้าง West quay, Southampton Airport, โรงพยาบาล, Tudor House (สถานที่เที่ยวประจำเมือง), ศูนย์ศึกษาทางทะเล (NOCS) ของมหาวิทยาลัย รวมไปถึงสนามฟุตบอลประจำเมืองที่ St. Mary’s Stadium เป็นต้น
รู้หรือไม่: ที่นี่มีสโมสรฟุตบอลชื่อดัง หรือ Southampton F.C. หรือเรียกสั้นๆ ว่า นักบุญ (The Saints) ด้วยนะคะ
สำหรับค่ารถเมล์ ถ้าเป็นตั๋วคนธรรมดาแบบเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ £2.00 ค่ะ แต่เราสามารถซื้อตั๋วแบบตั๋วปีได้ในราคาที่ถูกกว่า คุ้มกว่าอยู่ที่ £385/ปี ใส่บัตร Smart Card ที่เรียกว่า The Key วิธีใช้ก็ง่ายมากๆ
- เข้าไปสั่งบัตรในเว็บ รอประมาณ 2 วัน เค้าจะมาส่งที่บ้านของเรา
- เข้าไปเติมเงินในเว็บ https://key.unilinkbus.co.uk/smart-card/ รอประมาณ 3 ชั่วโมง
- เวลาขึ้นรถก็เอาบัตรนี้แตะที่เครื่องประมาณ 5 วินาที แค่นี้ก็เรียบร้อย
หรือง่ายกว่านั้นก็คือโหลด Application ของ Unilink ชื่อว่า clickit2ride สร้างบัญชีและเข้าไปเติมเงินตัดผ่านบัตรเครดิตหรือเดบิต แล้วก็สแกนผ่าน App ตอนขึ้นรถได้เลย ไฮโซเว่อออออร์ แต่บอกก่อนว่า Application จะเติมเงินได้สูงสุดแค่ 90 วันนะคะ อยู่ที่ £117 ซึ่งพอมาคำนวณดูแล้ว เจ้า The Key จะคุ้มกว่าค่ะ 🙂
หน้าตาของป้ายรถเมล์ จะมีบอกเวลาที่รถคันถัดไปที่กำลังจะมาจอดให้ด้วย
The Key ประหยัดเงินและเวลา เติมเงินผ่านเว็บออนไลน์ได้เลย สะดวกดี
ตึก Student Services Centre
เดินถัดจากป้ายรถเมล์มาอีกหน่อย เราจะเจอกับ Student Services Centre หรือตึก SSC ที่เป็นทุกอย่างของนักศึกษาที่นี่เลยละค่ะ ไม่ว่าเรามีเรื่องอะไรที่จะต้องติดต่อมหาวิทยาลัย ตั้งแต่รายงานตัววันแรก ติดต่อเรื่องหอพัก จ่ายค่าเรียน ทำวีซ่า หางานพิเศษ หางานหลังเรียนจบ สมัครชมรมต่างๆ ไปจนถึง มีปัญหา Homesick เรียกได้ว่ามีปัญหาทางไหนที่นี่รับได้ทุกอย่าง จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์ 8.30 น. – 18.00 น. เลย
ด้านหน้าตึก SSC หน้าตาประมาณนี้
ประตูข้างหน้ามีคำว่า “ยินดีต้อนรับ” หลายภาษาเลย
ภายในตึก SSC เป็นอาคารเพดานโล่งๆ โปร่งสบาย
ด้านซ้ายจะเป็น Careers Centre ค่ะ ไว้มาหางาน Part-time กันได้
หลังจากที่ไปเยี่ยมชม SSC กันแล้ว เราเดินออกมาชมบรรยากาศรอบๆ มหาวิทยาลัยกันต่อ ฝนเพิ่งหยุดตกไปเมื่อกี้เอง พื้นก็จะแฉะๆ นิดหน่อย แต่ไม่สามารถบดบังความสวยงามของอิฐสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของตึก Hartley Library ได้เลย ดูคลาสสิคมากๆ เลยล่ะค่ะ
ห้องสมุด Hartley Library
ห้องสมุดหลักของมหาวิทยาลัยจะมีชื่อเรียกว่า Hartley Library ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยที่ Highfield Campus เลยค่ะ เปิดบริการ 24/7 เกือบตลอดทั้งปี มีหนังสือเรียนทุกแขนงเพราะมี Database ใหญ่มากๆ ตัวตึกมีทั้งหมด 5 ชั้น มีทั้งโซน Quiet Study Area และ Group Study Room ให้น้องๆ มาประชุมงานกับเพื่อนๆ ได้ การยืม-คืนหนังสือที่นี่ก็ง่ายค่ะ เพราะเป็นเครื่องอัตโนมัติหมดแล้ว เวลาจะปริ้นงานหรืออะไรก็สามารถเติมเงินในบัตรนักเรียนแล้วก็ปริ้นได้เลย มี Wi-Fi ทั่วมหาวิทยาลัยด้วย
Hartley Library หลังฝนตกเบาๆ
Hartley Library ตอนท้องฟ้าสดใส 😀
Student Union aka SUSU
เดินต่อกันมาเรื่อยๆ จนมาเจอ Student Union ของมหาวิทยาลัย ที่นี่รวมเอาทุกความบันเทิงและกิจกรรมต่างๆ ที่นักศึกษาสามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของที่ระลึกของมหาวิทยาลัย ผับ โรงหนัง และ Sport Centre ขนาดใหญ่ที่นักกีฬาประจำเมืองก็มาใช้บริการกันค่ะ เพราะมันใหญ่มากกกกกกก มีกีฬาและชมรมให้เข้าร่วมมากถึง 80 ชนิด ตั้งแต่ ลู่วิ่งแบบสนามกรีฑา สนามแบตมินตัน สนามบาสในร่ม ปีนเขา คริกเก็ต ฟิตเนส (มีเทรนเนอร์ให้ด้วย 555) ฟุตบอล ฮอกกี้ ลาครอส เนตบอล ปิงปอง สควอช ยิงปืน เทนนิส รักบี้ วอลเลย์บอล และอีกเยอะแยะมากมาย ถ้าใครเป็นคนรักการเล่นกีฬาหรือสายสุขภาพ บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่ผิดหวัง
ด้านหน้าของ Student Union
ลืมบอกไปว่านอกจาก Highfield Campus ที่เป็นวิทยาเขตหลักของ Soton แล้ว ยังมีอีก 6 วิทยาเขตย่อยของมหาวิทยาลัยค่ะ แบ่งดังนี้
- Highfield Campus – วิทยาเขตหลักที่ใหญ่ที่สุด บ้านของ Southampton Business School (SBS)
- Boldrewood Innovation Campus – วิทยาเขตใหม่ล่าสุดของมหาวิทยาลัย บ้านของคณะวิศวกรรมศาสตร์
- Avenue Campus – วิทยาเขตย่อยที่อยู่ติดกับ Highfield บ้านของคณะมนุษยศาสตร์ (Humanities)
- University Hospital Southampton – ฟังจากชื่อก็เดาได้ไม่ยาก เป็นทั้งโรงพยาบาลและที่เรียนของคณะ Medicine และ Healthcare ทั้งหมดค่ะ
- Waterfront Campus – วิทยาเขตติดแม่น้ำของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่ที่ National Oceanography Centre Southampton (NOCS) เพื่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ทางทะเลและโลก
- Winchester School of Art – บ้านของคณะ Arts ที่สอนตั้งแต่ Fine Art, Visual Art รวมไปถึง Fashion Design ทั้งหลาย ตั้งอยู่ที่เมือง Winchester ห่างจาก Southampton เพียง 15 นาทีโดยรถไฟ
- University of Southampton Malaysia – วิทยาเขตสุดท้ายที่เปิดสอนที่ประเทศมาเลเซียเฉพาะปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์เท่านั้น
ไปต่อกันที่ห้อง Bloomberg Trading Suite ที่มหาวิทยาลัยมีความภูมิใจในการนำเสนอมาก เพราะว่า Facilities เหล่านี้ มหาวิทยาลัยต้องทุ่มงบมหาศาลในการซื้อข้อมูลต่างๆ รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ให้กับนักเรียน บอกเลยว่าทำเพื่อนักศึกษาสุดๆ ให้คุ้มกับค่าเรียนทุกเพนนีที่เราต้องจ่ายไปเนอะ อิอิ
สาย Finance น่าจะฟินกันเลยทีเดียว
เจ้าเครื่องนี่มันทำอะไรได้บ้างนะ?
พี่นก เจ้าหน้าที่ Counselor ของเราเอง อิอิ
มหาวิทยาลัยดังในอังกฤษเกือบทุกที่จะมีธนาคารอยู่ในมหาวิทยาลัยเลย รวมถึงคลินิกตรวจสุขภาพด้วย
ที่ Southampton ก็เช่นกัน มีทั้ง Santander และ Barclays ค่ะ
Zepler Building
เดินมาต่อที่ Zepler Building เป็นตึกหลักของคณะ Faculty of Physical Sciences and Engineering เค้าล่ะค่ะ บอกเลยว่าตึกไฮโซมากกก หรูมาก คือไม่แปลกใจถ้าคณะวิศวะเค้าจะดัง เพราะตึกน่าเรียนแล้วเครื่องจักรทั้งหลายครบครัน มีให้หลายเครื่อง ไม่ต้องกลัวว่าจะแย่งกันเวลาเรียนนะคะ ที่สำคัญคือดูใหม่ด้วย ขนาดพี่ไม่ใช่เด็กวิศวะ ยังอยากเรียนเลยค่ะ 55555
อาจารย์เล่าให้ฟังว่าทุกปีคณะก็จะมีจัดงาน Careers Fair ให้นักศึกษาที่ต้องการฝึกงานให้ได้เจอกับผู้จ้างจากบริษัทดังๆ ไม่ว่าจะเป็น Rolls Royce, Apple, Jaguar, Land Rover, Philips, Boeing UK, ExxonMobil เป็นต้น และไม่ได้มีเฉพาะคณะวิศวกรรมศาสตร์นะคะ คณะอื่นๆ ก็มีเช่นกัน
คอมพิวเตอร์มีหลายสิบเครื่องเลยค่ะ
University Accommodation
หลังจากได้ไปชมคณะวิศวะกันมาแล้ว ต่อไปเรามาแวะดูหอพักกันหน่อยค่ะ เราไปกันที่ Glen Eyre Halls ที่น้องๆ ส่วนใหญ่ชอบเพราะว่าสามารถเดินจากมหาวิทยาลัยได้ไม่เกิน 15 นาที แล้วหอก็ค่อนข้างใหม่ สะอาด น่าอยู่ค่ะ ที่นี่เค้าจะแบ่งเป็นหลายๆ ตึก ซึ่งมีตึกที่เพิ่งตกแต่งใหม่ด้วย สวยแล้วก็โมเดิร์นมากๆ มีห้องทั้งหมด 2,200 ห้อง
อีกหอที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันจะเป็น Wessex Lane ที่ต้องนั่งรถเมล์ไปนิดหน่อย แต่รถเมล์ไปจอดหน้าหอเลย ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในหมู่เด็กเอเชีย เพราะเราขี้เกียจเดินกันค่ะ 5555 ตอนนี้ที่นี่ก็กำลังตกแต่งใหม่อยู่ ปีหน้าน่าจะสวยน่าอยู่มากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายหอให้ได้เลือกกัน ที่อยู่ในเมืองเลยก็มี หากน้องๆ ไม่แน่ใจเกี่ยวกับการจองหอ สามารถให้พี่ๆ EFL ช่วยได้เลยนะคะ
ด้านหน้าทางเข้าส่วนที่ตกแต่งใหม่
ลานอเนกประสงค์ วันที่อากาศดีๆ มาตั้งปาร์ตี้บาบีคิวกันได้ค่ะ อิอิ
Mailbox
ห้อง Laundry ข้างล่างจะเป็นเครื่องซัก ข้างบนจะเป็นอบแห้งค่ะ แสกน QR Code ได้เลย สะดวกดี
ถนนรอบๆ มหาวิทยาลัย ให้ฟีลอังกฤษจริงๆ
Nuffield Theatre โรงละครประจำเมือง Southampton อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยเลยค่ะ
มีทั้งแสดงละครเวทีและคอนเสิร์ตโดยนักศึกษาและนักแสดงมืออาชีพ มีหลายเรื่องให้เลือกชม
บรรยากาศรอบๆ
มีท่ารถ Southampton Interchange ด้วย
มาทานข้าวกับเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย คุณ Giang Nguyen ที่ร้านอาหารใน Student Union
ปิดท้ายกันด้วยสวนด้านหลังมหาวิทยาลัยชื่อ Valley Garden สวยมากกก ร่มรื่นมากกก ถือว่าเป็น Secret Garden ของที่นี่เลยค่ะ น่ามานอนเล่น อ่านหนังสือ ปิกนิกกับเพื่อนๆ เป็นที่สุด
จบกันไปแล้วกับการรีวิวมหาวิทยาลัยที่ 2 จริงๆ มีเรื่องให้เขียน ให้เล่าเยอะมากค่ะ แต่อาจจะเรียบเรียงได้ไม่หมด ^^ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจ อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเรียนต่อที่ University of Southampton ก็สอบถามพี่ๆ ได้เลยนะคะ ที่นี่เป็นมหาวิทยาลัยดังที่ได้รับการรับรองทั้งในอังกฤษและประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นสำนักงาน ก.พ. หรือ ก.ต. และบริษัทดังๆ ทั่วโลก เป็นมหาวิทยาลัยในเครือ Russell Group เพราะฉะนั้นมาตรฐานการเรียนการสอนเค้าดีจริง ติด Top 1% University in the World ด้วย ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน
EP หน้า เราจะไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยที่ไหนกัน อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ วันนี้พี่หนิงขอลาไปก่อน แล้วเจอกันค่า 🙂