UK University Review Vol.5 Northumbria University
ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรีข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่หนิงอีกแล้วนะคะ ใน EP5 วันนี้พี่หนิงจะพาน้องๆ ขึ้นเหนือไปเจอมหาวิทยาลัยอีกแห่งที่น่าสนใจและน่าเรียนมากๆ นั่นก็คือ Northumbria University หรือมหาวิทยาลัยนอร์ทัมเบรียนั่นเองค่ะ ที่นี่จะน่าเรียนและน่าสนใจอย่างไร ตามมาดูกันเลยค่ะ
เกริ่นกันเล็กน้อยเกี่ยวกับประวัติของมหาวิทยาลัย Northumbria University ที่นี่ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 1969 ในชื่อ Newcastle Polytechnic ซึ่งประกอบไปด้วย 3 วิทยาลัยใหญ่ๆ คือ College of Art & Industrial Design, Municipal College of Commerce และ City College of Education จนกระทั่งปี 1992 จากเหตุการณ์ปฏิวัติการศึกษาของประเทศอังกฤษ ที่นี่จึงได้รับการเปลี่ยนสถานะให้เป็นมหาวิทยาลัยเต็มตัวมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ดังนั้น ถ้าพูดกันตามจริงแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็เป็นสถาบันการศึกษาที่มีก่อตั้งมาอย่างยาวนาน ไม่แพ้มหาวิทยาลัยเก่าแก่อื่นๆ เลยค่ะ
วิทยาเขตใหญ่ของมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่เมืองนิวคาสเซิล (Newcastle) ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูสู่ภาคเหนือก่อนที่จะขึ้นไปถึงประเทศสกอตแลนด์ค่ะ ตัวมหาวิทยาลัยเองก็ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย แทบไม่ต้องเดินทาง แค่เดินเท้าอย่างเดียวก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากอยู่ค่ะ นอกจากสถานที่ตั้งจะสะดวกแล้ว ไม่พูดถึงทีมฟุตบอลของที่นี่คงจะไม่ได้ เมือง Newcastle เองก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีความจริงจังมากกกกก ในเรื่องของการเล่นและการเชียร์ฟุตบอล เนื่องจากที่นี่มีสโมสรฟุตบอลแค่ทีมเดียว นั่นก็คือ Newcastle United Football Club ที่เป็นเหมือนตัวแทนของคนทั้งเมือง คนที่นี่จึงรักทีมของเค้ามากค่ะ เวลามีทีมอื่นมาเยือนสนามทีก็ต้องหนาวๆ ร้อนๆ กันบ้าง เพราะคนที่นี่เค้าเชียร์กันจริงจังมาก พี่หนิงก็ได้ไปชมการแข่งมา Match หนึ่ง เวลาเค้าร้องเพลงเชียร์ทีถึงกับขนลุกเลยค่ะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นแล้วก็สนุกมากเลย ถ้าน้องๆ คนไหนมีโอกาสไปเรียนหรือไปเที่ยวที่ประเทศอังกฤษ ก็อย่าลืมไปชมการแข่งขันฟุตบอลกันนะคะ ^^
การเดินทางไปที่เมืองนิวคาสเซิลจากเมืองไทยก็ไม่ยากค่ะ เพราะมีสายการบินที่บินไปลงที่เมืองนี้เลยจากสุวรรณภูมิ เช่น Emirates (Bangkok-Dubai-Newcastle), KLM (Bangkok-Amsterdam-Newcastle), British Airways (Bangkok-London-Newcastle) พี่หนิงแนะนำว่าให้ลงที่นี่เลยดีกว่าไปลงลอนดอนแล้วนั่งรถไฟมานะคะ เพราะว่า ตม ที่นี่ไม่วุ่นวายแล้วก็สะดวกกว่าเยอะค่ะ จากตัวสนามบินเข้าเมืองมาใช้เวลาประมาณ 15 นาทีโดยแท็กซี่ หรือ 20 นาทีโดยรถไฟค่ะ (รถไฟไม่เสียเงินด้วยนะคะ ดีเว่อร์)
อย่างที่บอกไปด้านบนว่าตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่กลางใจเมืองเลย เรียกว่า City Campus แบ่งเป็น City East กับ City West ค่ะ จะมีสะพานเชื่อมระหว่าง 2 ฝั่ง โดยฝั่ง West จะเป็นตึกทั่วไปของคณะต่างๆ รวมไปถึงห้องสมุด และ Sports Facilities ส่วนทางฝั่ง East จะเป็นบ้านหลักของ Business School, Law School และ Design School
Tips: รู้หรือไม่ ที่ Northumbria University มีศิษย์เก่าที่สำคัญคือ คุณ Sir Jonathan Ives ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโสฝ่ายการออกแบบของบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์ (Apple Inc.) และเป็นผู้ออกแบบ iMac ค่ะ เท่สุดๆ ไปเลย เพราะฉะนั้นคณะ Product Design ของที่นี่จึงดังมากๆ ค่ะ
ภายในบริเวณมหาวิทยาลัย
ตู้ Amazon ไว้สำหรับสั่งของจากเว็บ Amazon แล้วมา Pick up ที่นี่
ในห้องสมุดมีตู้ล็อคเกอร์ให้ด้วยค่ะ ภายในล็อคเกอร์ก็มีที่ปลั๊กให้ชาร์จแบตด้วยนะ
ในส่วนของหอพัก เนื่องจากมหาวิทยาลัยอยู่กลางเมือง ที่นี่เลยมีหอพักเยอะมาก กระจายตัวอยู่รอบๆ มีทั้งหอพักที่ดูแลโดยมหาวิทยาลัยและหอพักที่เป็นของเอกชนค่ะ สามารถเดินได้และค่าหอก็ไม่แพง ราคาตั้งแต่ £79-£129 ต่อสัปดาห์ค่ะ (อ้างอิงจากราคาหอมหาวิทยาลัยปี 2019) หรือถ้าหากไม่อยากอยู่หอพัก ก็สามารถหาบ้านอยู่เพื่อแชร์กันกับเพื่อนๆ ได้นะคะ ค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงไปอีก
Engineering and Technology
ตอนนี้เราอยู่กันที่ฝั่ง City Campus West ค่ะ เมื่อเดินตามถนน Northumberland ก็จะเจอทั้งโบสถ์และตึกหอประชุมอันเก่าแก่ที่เค้านำมาตกแต่งด้านในใหม่แต่ยังความสวยงามของภายนอกเอาไว้ เดินมาเรื่อยๆ ด้านขวาจะพบกับ Ellison Building ซึ่งเป็นตึกเรียนหลักของคณะ Engineering and Technology ค่ะ ในนี้ก็จะมีห้องเครื่อง ห้องแล็ป ห้องทดลองอะไรต่างๆ มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมจริง เครื่อง 3D Printer State-of-the-art laboratories, Prototyping workshops, CAD suites, media labs รวมไปถึงห้องทดสอบ Aerodynamic ของคณะ Engineering ด้วย
Tips: ที่ตึก Ellison Building นี้จะมีแผนก IT Supports ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ค่ะ ไม่ต้องห่วงสำหรับน้องๆ ที่ต้องมาปั่นงานก่อนวันส่งค่ะ อิอิ ^^
เดินกลับออกมาที่ถนน Northumberland ฝั่งซ้าย เราจะพบกับ Sports Facilities ที่บอกเลยว่าไม่ธรรมดาค่ะ เพราะเค้ามีสระว่ายน้ำในร่มขนาดใหญ่ คอร์ท Squash 2 คอร์ท Fitness Centre สนามกีฬาต่างๆ แถมยังที่ฝึกซ้อมของทีมบาสเกตบอล Newcastle Eagles ทีมประจำเมืองนิวคาสเซิลด้วยค่ะ
เดินต่อไปอีก เราจะเจอ Library ของมหาวิทยาลัย มีทั้งหมด 6 ชั้น รวมถึงไปชั้นใต้ดินที่เพิ่งได้รับการรีโนเวทเมื่อปี 2014 ให้มีสีสันที่สดใสและเหมาะแก่การอ่านหนังสือ มีห้องย่อยๆ ไว้ให้นักเรียนไปอ่านหนังสือเป็นกลุ่ม รวมถึง Database หนังสือทั้งออนไลน์และออฟไลน์สำหรับนักเรียน อาจารย์และสตาฟเพื่อค้นคว้าข้อมูล ที่นี่เปิด 24/7 ค่ะ ไม่มีปิดกันเลยทีเดียว
Business and Law School
เดินข้ามสะพานมาที่ฝั่ง East กันบ้าง ที่ถือเป็น Highlight ของที่นี่ค่ะ ฝั่งนี้จะแบ่งตึกเป็นสองฝั่ง เค้าบอกว่าคนออกแบบต้องการให้เป็นเหมือนกับรูปสมองมนุษย์ที่มีฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาค่ะ โดยฝั่งซ้ายจะเป็นคณะ Business and Law School ในขณะที่ฝั่งขวาจะเป็นคณะ Design ไหนลองมาดูกันว่าเหมือนมั้ยนะคะ 😀
ภายในตึก Business School
เดินข้ามถนนมาด้านหลังจะเจอกับ The Business Clinic ซึ่งเป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจแก่ SMEs ในเมืองนิวคาสเซิล ฟรี!! เป็น Non-Profit Organisation ที่ดูแลโดยมหาวิทยาลัยและ Business School โดยเฉพาะ เปิดโอกาสให้นักเรียนปีสุดท้ายในระดับปริญญาตรีและนักเรียนปริญญาโทให้มาลองทำ Business Project ภายใต้ Supervision ของอาจารย์กันจริงๆ เลยค่ะ
Newcastle City Centre
หลังจากที่ได้ไปชมมหาวิทยาลัยแล้ว พี่หนิงมีที่เที่ยวนิดหน่อยที่จะมาแนะนำแก่น้องๆ ที่สนใจมาเรียนที่นี่นะคะข้อดีเลยของการมาเรียนที่นี่คือ เดินทางสะดวก ค่าครองชีพไม่แพง อากาศดีค่อนไปทางหนาวๆ บ้านเมืองไม่วุ่นวาย ผู้คนค่อนข้างน่ารักและให้ความช่วยเหลือดีมาก อาจจะมีสำเนียงแปร่งๆ ไปบ้าง โดยส่วนตัวแล้วก็ค่อนข้างประทับใจกับเมืองนิวคาสเซิลมากๆ ค่ะ แถมยังเดินทางไปเที่ยวสกอตแลนด์หรือเมืองอื่นๆ หรือประเทศอื่นๆ ในยุโรปง่ายมากๆ เพราะมี Airport เป็นของตัวเอง
ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูรูปกันเล้ย
ตรงนี้เป็นทางขึ้นมาจาก Grey Street ก่อนที่จะไปเจอกับ Grey’s Monument ค่ะ
Therthe Royal ประจำเมืองค่ะ
The Grey’s Monument หรืออนุสาวรีย์ของคุณ ชาลส์ เกรย์ เอิร์ลเกรย์ที่ 2 นักการเมืองและรัฐบุรุษชาวอังกฤษผู้เคยเป็นนายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรมาก่อน เขาเป็นผู้ผลักดันการปฏิรูปการเมืองให้ไปสู่ระบบการเลือกตั้ง และยังออกกฎหมายการเลิกทาสทั่วจักรวรรดิอังกฤษในปี 1833 นอกจากนี้เขายังเป็นผู้เผยแพร่ชาเอิร์ลเกรย์ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย
บริเวณรอบๆ Eldon Square ซึ่งมีห้างใหญ่ๆ รายล้อมเยอะมาก ตั้งแต่ Debenhams, Fenwick, intu, John Lewis, Marks & Spencer เรียกว่าช็อปได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำเลยค่ะ
เจอตู้ Krispy Kreme ในร้าน Tesco Express ค่ะ รอดแล้วเรา อิอิ
สะพาน Mellenium Bridge ที่ถือเป็น Landmark สำคัญของเมือง Newcastle ค่ะ ยกได้ด้วย เดินข้ามได้ด้วยค่ะ เท่สุดๆ
ร้านอาหาร Pitch & Piano ร้านอาหารชื่อดังอยู่ติดกับสะพาน Millenium Bridge บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ
เมนู Fish & Chips ที่ขาดไม่ได้เลยเวลามาอังกฤษ 5555
ภายใน Newcastle Airport เล็กๆ ไม่ใหญ่มากค่ะ น่าจะพอๆ กับดอนเมืองบ้านเรา
สุดท้ายขอบคุณ Northumbria University มากๆ เลยที่เชิญให้พี่หนิงไปร่วมงาน Annual Conference ของมหาวิทยาลัยนะคะ น้องๆ คนไหนที่สนใจไปเรียนหรืออยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็ติดต่อพี่ๆ EFL UK ได้ตามช่องทางดังนี้นะคะ แล้วพบกัน EP หน้า สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า <3