การไปเรียนต่อประเทศอังกฤษในปัจจุบัน ได้รับความนิยมมากสำหรับนักเรียนไทย ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท ที่สำคัญคือเรื่องของการเตรียมตัวก่อนไปเรียนจริง น้องๆ จะต้องเตรียมพร้อมไม่ว่าจะเป็นทั้งการเตรียมค่าใช้จ่าย การเลือกสาขาวิชา การเลือกมหาวิทยาลัย การสมัครเรียน และการสอบวัดผลภาษาอังกฤษ ซึ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการไปเรียนต่อประเทศอังกฤษ หากขาดคุณสมบัติที่สำคัญข้อใดข้อหนึ่งไป แผนการไปเรียนต่อก็อาจจะติดขัดได้เลยทีเดียว
สรุปขั้นตอนการเตรียมตัวไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ
- เตรียมงบประมาณค่าใช้จ่าย
- เลือกสาขาที่สนใจไปเรียนต่อ
- เลือกมหาวิทยาลัย
- เตรียมเอกสารสมัครเรียน
- เตรียมสอบภาษาอังกฤษ IELTS
สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดสำหรับการไปเรียนต่อประเทศคือเรื่องค่าใช้จ่าย แน่นอนว่าการไปเรียนต่อประเทศอังกฤษจะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง แต่ก็ไม่ถึงกับสูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
สำหรับค่าใช้จ่ายเรียนต่อประเทศอังกฤษนั้น เมื่อรวมค่าเรียนและค่าใช้จ่ายสำหรับกินอยู่ จะเฉลี่ยอยู่ที่ปีละประมาณ 1,200,000 – 1,800,000 บาท ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสาขาวิชาเรียนและมหาวิทยาลัยที่น้องๆ ได้ตัดสินใจเลือกไปเรียนต่อด้วย
หลังจากที่ได้มีการตั้งและเตรียมงบสำหรับค่าใช้จ่ายแล้ว เรื่องที่สำคัญถัดมาก็คือการเลือกสาขาวิชา ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกสาขาวิชาเรียน น้องๆ จะต้องดูถึงเป้าหมายตัวเองก่อนว่า หลังจากเรียนจบ มีแผนจะทำงานอะไร เพื่อให้สอดคล้องกับการเลือกสาขาวิชาที่เหมาะสมกับเป้าหมายในในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเรียนต่อปริญญาตรี น้องๆ จะต้องตั้งเป้าหมายอาชีพในอนาคตให้ชัดเจนพอสมควร เพราะปริญญาตรีใช้เวลาเรียน 3-5 ปีขึ้นอยู่กับสาขาวิชา และควรจะเป็นสาขาวิชาที่เรียนไปเพื่อให้ตรงตามเป้าหมายอาชีพในอนาคตของน้องๆ
สำหรับเรียนต่อปริญญาโท ส่วนใหญ่น้องๆ อาจจะเลือกเรียนต่อปริญญาโทโดยให้ต่อยอดจากสาขาเดิมที่จบปริญญาตรีมา เพื่อเป็นการให้เรียนเชิงลึกขึ้นในเชิงงานวิจัย หรืออาจจะเรียนต่อปริญญาโทในสาขาวิชาด้านการบริหาร การจัดการ การเงิน เพื่อไปต่อยอดในความหลากหลายทางอาชีพได้อีก ก็สามารถทำได้เช่นกันสำหรับบางมหาวิทยาลัย
เมื่อตัดสินใจเลือกสาขาวิชาได้แล้ว ต่อมาก็จะเป็นเรื่องของการเลือกสถาบันหรือมหาวิทยาลัย โดยในการเลือกมหาวิทยาลัยนั้น จะต้องดูจากปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เกณฑ์การรับสมัคร เมือง ค่าใช้จ่าย และการจัดอันดับ Ranking ซึ่งต่างก็สำคัญเช่นกัน
- เกณฑ์การรับสมัครเรียน: น้องๆ จะต้องดูก่อนว่าผลการเรียนปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น High School หรือปริญญาตรีที่เราเรียนจบมานั้น ผ่านถึงเกณฑ์มหาวิทยาลัยที่เรากำลังจะสมัครเพื่อเรียนต่อหรือไม่ เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดเกณฑ์การรับสมัครเลยว่า ต้องมีผลการเรียน GPA ที่เท่าไหร่ ถึงจะสามารถสมัครเรียนได้
- เมือง: มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งที่ประเทศอังกฤษจะตั้งอยู่ตามเมืองต่างๆ ซึ่งจะมีทั้งเมืองใหญ่ เมืองขนาดกลาง และเมืองขนาดเล็ก โดยน้องๆ จะต้องดูว่า ตัวเองชอบอยู่เมืองแบบไหน เพื่อจะสามารถเลือกมหาวิทยาลัยให้ตรงตามไลฟ์สไตล์น้องๆ มากที่สุด
- ค่าใช้จ่าย: เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการเลือกมหาวิทยาลัย เพราะค่าเทอมของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะไม่เท่ากันเลย ต้องย้อนกลับไปดูที่งบค่าใช้จ่ายที่น้องๆ ตั้งไว้อีกครั้งว่าเพียงพอสำหรับมหาวิทยาลัยที่กำลังจะเลือกนี้หรือไม่
- Ranking: นับเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่น้องๆ หลายคนให้ความสำคัญกับการเลือกมหาวิทยาลัยมากเช่นกัน การดู Ranking น้องๆ ก็จะสามารถทราบได้บ้างว่า มหาวิทยาลัยใดโดดเด่นสาขาวิชาอะไรเป็นพิเศษ ก็จะเป็นอีกตัวช่วยในการเลือกมหาวิทยาลัยเช่นกัน
เมื่อตัดสินใจเลือกสาขาวิชาเรียนและมหาวิทยาลัยได้แล้ว ต่อมาก็จะต้องเริ่มเตรียมเอกสารเพื่อยื่นสมัครเรียน ซึ่งจะแบ่งเป็นสำหรับปริญญาตรีและปริญญาโทดังนี้
เอกสารที่ใช้ในการสมัครเรียนปริญญาตรี (Foundation และ International Year One)
- ใบสมัคร EFL Application Form
- สำเนาหนังสือเดินทาง
- ผลการเรียนมัธยม High School Transcript
- ผลสอบ IELTS UKVI Academic
- วีซ่าอังกฤษเก่า (ถ้ามี)
เอกสารที่ใช้ในการสมัครเรียนปริญญาโท
- ใบสมัคร EFL Application Form
- สำเนาหนังสือเดินทาง
- ใบรายงานผลการเรียน (Bachelor Transcript)
- จดหมายรับรองจบการศึกษา (Completion Letter or Degree Certificate)
- Recommendation Letter 2 ฉบับ
- Statement of Purpose (ไม่เกิน 500 คำ)(เป็นการเขียนเรียงความอธิบายเหตุผลทำไมถึงสนใจเรียนคอร์สและมหาวิทยาลัยนี้)
- Resume/CV
- ผลสอบ IELTS UKVI Academic
- วีซ่าอังกฤษเก่า (ถ้ามี)
เรื่องสำคัญสุดท้ายก็คือการเตรียมสอบวัดระดับภาษาอังกฤษหรือ IELTS ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายที่สุดสำหรับน้องๆ หลายๆ คน โดยการเรียนในแต่ละระดับก็จะมีเกณฑ์คะแนน IELTS ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่คะแนน 5.0 ไปจนถึง 7.0 ขึ้นอยู่กับสาขาวิชาและมหาวิทยาลัย
การสอบ IELTS หลักๆ จะมี 2 ประเภททั้ง Academic หรือ General Training แต่สำหรับการสอบ IELTS เพื่อเรียนต่อประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท น้องๆ ควรเลือกสอบเป็น IELTS UKVI Academic ตามกฎของวีซ่าประเทศอังกฤษที่มีการกำหนดไว้
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทุกขั้นตอนจะง่ายขึ้นทันที ถ้าน้องๆ มาติดต่อพี่ๆ EFL ก็สามารถหมดห่วงและวางใจได้เลย เพราะพี่ๆ EFL จะช่วยดูแลให้คำปรึกษาอย่างมืออาชีพ และที่สำคัญคือบริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ช่วยดำเนินการสมัครเรียน ไปจนถึงช่วยเตรียมเอกสารยื่นวีซ่าเลย
“ปรึกษาเรื่องเรียนต่อ ครบจบที่ EFL”