เจาะลึกคณะดัง: การเรียน A-Level เพื่อเรียนต่อแพทยศาสตร์ในประเทศอังกฤษ
สำหรับน้องๆ ที่สนใจเรียนต่อสาขาแพทยศาสตร์ที่ประเทศอังกฤษ ต้องเรียนหลักสูตร A-Level ซึ่งจะเทียบเท่า Year 12-13 เมื่อเรียนจบจึงจะสามารถเลือก 4 คณะ Medical School และอีก 1 คณะที่เป็น Non-Medical School ผ่านระบบ Admissions กลางของประเทศอังกฤษที่เรียกว่า UCAS ได้ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น การสอบ UCAT (UKCAT), IELTS และการสอบสัมภาษณ์
วันนี้พี่ๆ EFL UK ขอแนะนำ 3 โรงเรียนชั้นนำในประเทศอังกฤษที่มีการเรียนการสอนอันเข้มข้น เพื่อติวนักเรียนเข้าคณะแพทย์โดยเฉพาะ โดยแต่ละที่จะมีจุดเด่นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของนักเรียนแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตร เมือง การ Support ต่างๆ รวมไปถึงทุนการศึกษาที่มีให้ โดยทั้ง 3 โรงเรียนจะรับนักเรียนที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ขึ้นไปหรือเทียบเท่า (IGCSE) รวมถึงผลภาษา น้องๆ สามารถดูข้อมูลได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ
หลักสูตร Newton A-Level ของที่ INTO เป็นหลักสูตรเดียวในประเทศอังกฤษที่สอนในมหาวิทยาลัย University of East Anglia ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 14 ของประเทศ โดยเรียน 4 วิชาตามหลักสูตรของ Cambridge International Exam board น้องๆ จะได้เปรียบมากๆ ในการปรับตัวระหว่างการเรียนในโรงเรียนและในมหาวิทยาลัย นอกจากนี้อาจารย์จากคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัย UEA สามารถให้คำแนะนำ รวมถึงการทำ Mock Interview ให้กับน้องๆ รวมถึงน้องๆ จะมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ N&N Hospital ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำมณฑล Norfolk อีกด้วย
Newton A-Level รับนักเรียนจำนวนจำกัดต่อปี ห้องละไม่เกิน 7 คน เพื่อให้นักเรียนส่วนร่วมกับอาจารย์ให้มากที่สุด น้องๆ จะได้ใช้ Facilities ที่ดีที่สุดโดยเฉพาะห้อง Lab ที่ได้มาตรฐานเทียบเท่าคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัย ทางโรงเรียนจะช่วยนักเรียนตั้งแต่เรื่องการเรียน ความเป็นอยู่ รวมไปถึงการสมัครสอบ UCAT, BMAT, IELTS และอื่นๆ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Support ที่โรงเรียนมีให้ >>คลิ๊ก<<
ในเรื่องของความปลอดภัย น้องๆ ทุกคนจะต้องพักในหอพักของ INTO เป็นห้องนอนเดี่ยว มีห้องน้ำในตัว มีเจ้าหน้าที่มาทำความสะอาดให้ทุกวัน น้องๆ ต้องรายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ทุกวันเพื่อความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่คอยแสตนด์บายดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง เมือง Norwich เองก็ได้รับการโหวตว่าเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยที่สุดในประเทศอังกฤษ
- Location: Norwich (2 hours from London by train)
- Entry Requirement: จบมัธยมศึกษาปีที่ 5 GPA 3.50+ or 6 GCSE passes at grades A*-A
- English Requirement: IELTS 6.0 with no less than 6.0 in any component
- Intake: September or January
- Tuition Fee: £52,275 for 2 years
- Scholarships: 10%-50% ของค่าเรียน
Highlights
- Uniquely located on University of East Anglia Campus
- 71% ของนักเรียนทั้งหมดได้เกรด A*-A ในปี 2018
- 100% Progression Rate นักเรียนทุกคนได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัย
- 100% Student Satisfaction Rate นักเรียนทุกคนมีความพึงพอใจมากที่เรียนที่นี่
- นักเรียนได้รับการตอบรับเข้า UCL, Imperial, King’s College, Queen Mary
- 24/7 Security, Meal Plans available, Ensuite Room with cleaning service
Cardiff Sixth Form College หรือ CSFC เป็นโรงเรียน Traditional Boarding School ที่มีชื่อเสียงทางการเรียนอย่างมาก ติดอันดับ No. 1 College in the UK 3 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2016 – 2018 รวมถึง Top Private School in the UK, Top Private Co-Educational Boarding School และ Top Private Sixth Form College for A-levels in the UK หลายปีติดต่อกัน การเรียนการสอนที่นี่มีความเข้มข้นมากถือเป็นที่สุดของประเทศอังกฤษ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมเสริมสำหรับนักเรียนหัวกระทิ ที่ CSFC มุ่งเน้นการดูแลตนเองและเสริมสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนได้ดึงศักยภาพประโยชน์สูงสุดจากความสามารถพิเศษของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่
จากสถิติ CSFC ติดอันดับ 1 ผลสอบ A-Level ระดับชาติติดต่อกัน 5 ปีซ้อนโดย The Telegraph and The Times
โรงเรียน CSFC ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Cardiff ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเวลส์ (Wales) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร (United Kingdom) อยู่ห่างจากลอนดอนเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย บ้านเมืองมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะแก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา มีความปลอดภัยมาก
- Location: Cardiff (2.5 hours from London by Train)
- Entry Requirement: จบ GCSE A* 6 วิชา จะต้องเป็น A* ในวิชาที่นักเรียนต้องการเรียนใน A-Level และนักเรียนที่ไม่ได้เรียนหลักสูตร GCSE จะต้องสอบข้อสอบของโรงเรียน 4 วิชาที่นักเรียนต้องการเรียน A-Level
- English Requirement: IELTS 6.5 with no less than 6.0 in any component
- Intake: September
- Tuition Fee: £42,700 for 2 years
- Scholarships: Up to 50% ของค่าเรียน (มูลค่าสูงสุด £21,350)
Highlights
- Located in a beautiful city of Cardiff
- 89.68% ของนักเรียนทั้งหมดได้เกรด A*-A ในปี 2019
- 99.19% ของนักเรียนทั้งหมดได้เกรด A*-B ในปี 2019
- Highest quality of education in the world
- Benefit from Oxbridge preparation and Medical Schools visits
- ปีที่ผ่านมานักเรียนได้รับการตอบรับเข้า Cambridge 16 คน, UCL 18 คน, Imperial 15 คน, LSE 9 คน, Warwick 8 คน, KCL 7 คน
→ การคัดเลือกเข้าเรียนหมอหลังจบ A-level มีดังนี้
- นักเรียนจะต้องทำการเลือกมหาวิทยาลัยทั้งหมด 5 คณะ โดยเลือกคณะแพทย์ได้สูงสุด 4 คณะ และอีก 1 คณะที่เป็น Non-Medical programme ผ่านระบบ Admissions กลางของประเทศอังกฤษที่เรียกว่า UCAS (Deadline 15 October) โดยเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนจะเป็นผู้ช่วยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการสมัคร รวมถึงการสอบ UCAT หรือ BMAT
- หากเราได้รับการตอบรับ มหาวิทยาลัยจะส่ง Conditional offer letter หรือใบตอบรับมาให้ เพื่อเชิญให้เราไป interview
- เมื่อสอบผ่าน Interview แล้ว จึงจะเรียกได้ว่าสอบผ่านเต็มตัว (มีทั้งการ Interview ทั่วไปและแบบ MMI)
- ก่อนเปิดเรียน 3 เดือนมหาวิทยาลัยจะส่งเอกสาร CAS มาเพื่อให้ทำวีซ่าต่อไป
→ เงื่อนไขในการพิจารณาเข้าเรียนแพทยศาสตร์
การเรียนแพทย์ในประเทศอังกฤษนั้น มีการแข่งขันสูงมากเพราะมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษจะรับนักเรียนต่างชาติเข้าเรียนสาขาแพทยศาสตร์ (Bachelor of Medicine and Bachelor of Surgery หรือที่เรียกว่า MBBS) จำนวนจำกัด ผู้สมัครนอกจากจะต้องได้ เกรด A เป็นอย่างน้อย (หรือ A*) ในทุกวิชาในระดับ A level ที่เรียนแล้ว คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครของแต่ละมหาวิทยาลัยยังพิจารณาสิ่งเหล่านี้ร่วมด้วย ได้แก่
- High School Results – ผลการเรียน High School มีความสำคัญเช่นกัน ผู้สมัครที่มีผลการเรียน มัธยม 5/6 หรือ IGCSE ที่ดีกว่าจะได้เปรียบ
- A2 predicted results – ผลการเรียน Predicted score ของ A2 ต้องได้ อย่างน้อย AAA
- UCAS – personal statement – ผู้สมัครต้องเขียนจดหมายแนะนำตัว โดยเล่าประวัติส่วนตัว เหตุผลที่อยากเรียนแพทย์ ประวัติการฝึกงานหรืออาสาสมัคร ความเกี่ยวเนื่องกับสายอาชีพแพทย์ แรงบันดาลใจ ตลอดจนเป้าหมายในอนาคต
- UCAT (University Clinical Aptitude Test) หรือ BMAT (Biomedical Admissions Test) – ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่ท่านสมัคร ว่าต้องการผลสอบ UKCAT หรือ BMAT ทางโรงเรียนจะช่วยเช็คกับมหาวิทยาลัยที่เราต้องการเข้าก่อน เพื่อเตรียมตัวสอบให้ตรงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด สำคัญอย่างยิ่งที่นักเรียนต้องทำการลงทะเบียนเพื่อสอบ UCAT or BMAT ในขณะที่เรียน A-Level ปีแรก ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เนื่องจากที่สำหรับนักเรียนแพทย์มีจำนวนจำกัด นักเรียนต้องมีผลสอบดังกล่าวก่อนการยื่นใบสมัครผ่าน UCAS การยื่นใบสมัคร UCAS นั้นต้องทำในปีสุดท้าย (A2) โดยมีกำหนดส่งใบสมัครสาขาแพทย์ภายในวันที่ 15 October ของทุกปี
- Medical Interview – การสอบสัมภาษณ์เป็นส่วนสำคัญที่สุดของการสมัคร ผู้สมัครต้องผ่านเกณฑ์การคัดเลือกข้างต้นทั้งหมดก่อนที่จะได้เข้ารอบสัมภาษณ์ แม้หากผู้สมัครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมาแต่ตกสัมภาษณ์ ก็จะถูกตัดสิทธิ์ทันที ฉะนั้นผู้สมัครต้องเตรียมตัวอย่างดี การสอบสัมภาษณ์ใช้เวลาอย่างน้อย 1 วันเต็ม โดยจะแบ่งเป็นกิจกรรมการทดสอบทั้งเดี่ยวและกลุ่ม กรรมการจะใช้การสังเกต และเก็บคะแนนในการทดสอบย่อยต่างๆ ผู้สมัครที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจากการ Interview จะได้รับการคัดเลือก