เจาะลึกคณะดัง Pathway to Medicine & Dentistry ประเทศอังกฤษ

สำหรับน้องๆ ที่ต้องการไปเรียนต่อด้านแพทย์ ทันตแพทย์หรือสายอาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นๆ มีทางเลือกหลักๆ 3 ทาง ดังนี้ค่ะ

รู้หรือไม่? จากมหาวิทยาลัย 100 กว่าแห่งในประเทศอังกฤษ มีเพียงไม่กี่มหาวิทยาลัยเท่านั้นที่มีคณะแพทย์ สามารถดู Ranking คณะแพทย์ได้ที่นี่ Click

A-Level เป็นหลักสูตรการเรียนระดับมัธยมศึกษามาตรฐานของประเทศอังกฤษเทียบเท่า Year 12-13 เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยต่างๆ สามารถเลือกคณะได้สูงสุด 5 คณะ

น้องๆ ต้องเลือกเรียนกี่วิชาและวิชาอะไรบ้าง

นักเรียนที่ต้องการเรียนแพทย์จำเป็นต้องเรียน A-Level อย่างน้อยที่สุด 3 วิชา โดยเรียนวิชา Chemistry, Biology และ Physics or Maths (หรือทั้งคู่) และต้องได้เกรดอย่างน้อย A ขึ้นไปในทุกๆ วิชา

มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่คาดหวังให้ผู้สมัครเรียนแพทย์เป็นบุคคลที่มีความรู้สาขาอื่นด้วย นักเรียนจึงควรเลือกวิชาที่ 4 เป็นวิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาวิทยาศาสตร์ (non-Science Subject) อย่างไรก็ตาม วิชาที่ไม่เกี่ยวข้องกับวิชาวิทยาศาสตร์ดังกล่าวต้องไม่ใช่วิชา Critical thinking หรือ General Studies

มีคุณสมบัติอย่างอื่นอีกไหมที่นักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนแพทย์ต้องมี

IELTS: ผู้สมัครต้องได้คะแนนภาษาอังกฤษ IELTS 7.0 เป็นอย่างต่ำ และบางมหาวิทยาลัยอาจต้องการ IELTS สูงถึง 7.5-8.0
Internship: มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทางการแพทย์ส่วนมาก ต้องการนักเรียนที่มีประสบการณ์ทำงานแบบชั่วคราวในโรงพยาบาลมาก่อน นักเรียนที่ต้องการเรียนแพทย์จึงควรเข้าฝึกงานแบบชั่วคราวกับโรงพยาบาลในช่วงหยุดภาคฤดูร้อน
UCAT (The UK Clinical Aptitude Test) หรือ BMAT (The Biomedical Admissions Test) ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง ว่าต้องการ UKCAT หรือ BMAT น้องๆ ควรเช็คกับมหาวิทยาลัยก่อนเพื่อเตรียมตัวสอบให้ตรงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด สำคัญอย่างยิ่ง น้องๆ ต้องทำการลงทะเบียนเพื่อสอบ UKCAT or BMAT ในขณะที่เรียน A-Level ปีแรก (AS) ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน เนื่องจากที่สำหรับนักเรียนแพทย์มีจำนวนจำกัด ควรต้องมีผลสอบดังกล่าวก่อนการยื่นใบสมัครผ่าน UCAS การยื่นใบสมัคร UCAS นั้นต้องทำในปีสุดท้าย (A2) โดยมีกำหนดส่งใบสมัครสาขาแพทย์ภายในวันที่ 15 October ของทุกปี โดยปกติโรงเรียนจะมีแผนก University Placement Team ที่คอยแนะนำเราว่าต้องทำอะไรบ้างค่ะ

โรงเรียนและสถาบันที่สอน A-Level เพื่อเข้าคณะแพทย์โดยเฉพาะ

หลักสูตร Foundation คือ หลักสูตรปรับพื้นฐานปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยดังต่างๆ เปิดสอนสำหรับนักเรียนต่างชาติเท่านั้น โดยจะเปิดสอนเฉพาะสาขาที่เป็นที่นิยม เช่น สาขาบริหารธุรกิจและการจัดการ (Business and Management) สาขาวิศวกรรม (Engineering) สาขาวิทยาศาสตร์ (Science) เป็นต้น

ในอดีตไม่มีการเปิดหลักสูตร Foundation สำหรับสาขาการแพทย์มาก่อน ซึ่งเป็นการบังคับให้นักเรียนที่ต้องการเรียนต่อด้านการแพทย์ทุกคนต้องเรียน A-Level เพิ่ม หากเมื่อเวลาเปลี่ยนมหาวิทยาลัยดังต่างๆ ได้คิดค้นหลักสูตรเตรียมการแพทย์ของตัวเอง จึงเปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้าเรียนสายการแพทย์ที่ประเทศอังกฤษได้ง่ายขึ้น

ข้อแตกต่างระหว่างการเรียน A-Level การเรียน Foundation คือ ตัวเลือก (Choices)

หากน้องๆ เลือกเรียน A-Level จะสามารถเลือกคณะได้มากสุด 5 คณะ ผ่านระบบ UCAS (4 Medical and 1 Non-medical course) ส่วนการเรียน Foundation นั้น น้องๆ จะเข้าเรียนแพทย์ได้เฉพาะกับมหาวิทยาลัยเราสมัครเท่านั้น ตัวเลือกจะค่อนข้างจำกัดกว่า แต่ข้อดีคือได้เรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ เลย ทำให้ไม่ต้องปรับตัวมากเมื่อเรียนผ่านและเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 อย่างไรก็ตาม นักเรียนจะต้องสอบผ่านตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด

สำหรับมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักรที่เปิดสอนหลักสูตร Foundation เพื่อเรียนต่อแพทยศาสตร์หรือทันตแพทย์ ดังนี้

University of Aberdeen (ISC) มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศสกอตแลนด์ เปิดสอนหลักสูตรเพื่อเรียนต่อแพทยศาสตร์ จุดเด่นคือการฝึกงานที่ประเทศศรีลังกา
Cardiff University (ISC) มหาวิทยาลัยเก่าแก่ของประเทศเวลส์ เปิดสอนหลักสูตรเพื่อเรียนต่อแพทยศาสตร์และทันตแพทยศาสตร์
University of Sheffield (ISC) มหาวิทยาลัยในเครือ Russell Group ของประเทศอังกฤษ เปิดสอนหลักสูตรเพื่อเรียนต่อทันตแพทยศาสตร์
University of Central Lancashire มหาวิทยาลัยน้องใหม่ที่เปิดสอนหลักสูตร Foundation เป็นที่แรกๆ เพื่อเรียนต่อแพทยศาสตร์ ตั้งอยู่ที่เมือง Preston จุดเด่นคือ ไม่ต้องสอบ UCAT หลังจากเรียนจบ Foundation และสามารถ Progress ไปมหาวิทยาลัยในประเทศอื่นๆ ได้หลายแห่ง

เรียนต่อ University of Aberdeen (ISC)
เรียนต่อ Cardiff University (ISC)
เรียนต่อ University of Sheffield (ISC)
เรียนต่อ University of Central Lancashire

อีกทางเลือกที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก คือการเรียนโปรแกรม Pre-medicine ที่มหาวิทยาลัย St. George’s University โดยหลักสูตรที่โดดเด่นคือ 6 Years และ 4 Years MD โดยตัวหลักสูตร 6 ปี จะรับนักเรียนที่เรียนจบ ม.6 หรือเทียบเท่า เกรดเฉลี่ย 3.00 ขึ้นไป (สายวิทย์-คณิต) และหลักสูตร MD 4 ปีสำหรับนักเรียนที่เรียนจบปริญญาตรีมาในสาขาที่เกี่ยวข้อง

จุดเด่นของ St. George’s University

มีทุนการศึกษาสูงสุด USD$90,000 ตามระยะเวลาของหลักสูตร
ได้รับการรับรองหลักสูตรโดยแพทยสภาประเทศไทย
สามารถเลือกเรียนที่ UK campus หรือ Grenada campus
โอกาสในการทำ Clinical Placement ที่โรงพยาบาลใน USA or UK
มีการติวสอบ USMLE อย่างเข้มข้น
นักเรียนส่วนใหญ่กว่า 80% เป็น US หรือ Canadian Citizen อีก 20% เป็นประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

เรียนต่อ St. George’s University