Add Line
Belle’s University Review EP5 : University of Reading
ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรี ข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท
มาถึงอีพีสุดท้ายของทริปนี้กันแล้วละค่ะ นั่นก็คืออีพี 5 นั่นเองค่ะ คราวนี้พี่เบลล์มาดูมหาวิทยาลัย University of Reading ตั้งอยู่ห่างจาก London เพียง 30 นาทีเท่านั้นสะดวกสะบายสุดๆเลยละค่ะ University of Reading มีทั้งหมด 3 แคมปัสด้วยกันค่ะ แคมปัสที่พี่เบลล์ไปจะเรียกว่า Whiteknights Campus เป็นแคมปัสที่ ล้อมรอบไปด้วยสวนที่สวยงามกว่า 800 ไร่รอบๆ มหาวิทยาลัย แถมยังถูกโหวตให้เป็น Top 10 มหาวิทยาลัยสีเขียว จาก Green Flag People’s Choice Awards ในปี 2012 จนถึงปัจจุบันอีกด้วยละค่ะ
มาฟังประวัติมหาวิทยาลัยคร่าวกันก่อนดีค่ะ University of Reading เดิมทีมีชื่อว่า the Schools of Art and Science โดยก่อตั้งเมื่อปี 1860 และ 1870 ซึ่งนับว่าเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ และเป็นหนึ่งในมหาลัย Red brick ที่มีการทำ Research เข้มข้นติดอันดับมหาลัยชั้นนำของโลก นอกจากนี้ยังเป็นมหาลัยที่เปิดสอนในระหว่างสงครามโลกทั้งครั้งที่1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
ตึกจะเป็น Red brick อย่างที่เห็นข้างบนเลยค่ะ
การเดินทางเข้าไปลอนดอนก็ง่ายมากๆเลยค่ะ เพราะตอนนี้ ที่อังกฤษเปิดรถไฟใต้ดินสายใหม่ ชื่อว่า Elizabeth line ซึ่งรถไฟฟ้าใต้ดินสายนี้จะเชื่อมทั้งสถานีหลักในลอนดอนและสนามบินเลยละค่ะ การเดินทางก็ง่ายแค่ใช้บัตรเครดิตแตะที่ทางเข้า-ออก ก็สามารถใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสายนี้ได้แล้วค่ะ
แผนที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสาย Elizabeth ค่ะ
หลังจากที่เกริ่นคร่าวไปพอสมควรแล้ว เรามาเริ่มเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยกันก่อนดีกว่าค่ะ เริ่มแรกเลยพี่เบลล์เดินลงจากลงบัส แคมปัสเขียวสุดๆสมฉายาเลยแหละค่ะ ตึกแรกที่เราจะไปดูกันคือตึก ONCAMPUS Reading กันค่ะ ซึ่งเป็นเซ็นเตอร์ที่ดูแลนักเรียนต่างชาติรวมถึงนักเรียนไทยด้วยค่ะ ทั้งน้องๆที่มาเรียนปริญญาตรีในปีแรกก็จะต้องเรียนเฉพาะกับเด็กอินเตอร์ที่ตึกนี้ก่อนค่ะ แล้วปีต่อไปจึงจะไปเรียนกับเด็กอังกฤษ ยังมีน้องๆที่ไปเรียนต่อปริญญาโท Pre-Master’s ก็เรียนที่ตึกนี้เช่นกันค่ะ โดยตึกเรียนจะอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเลยค่ะ โดยน้องๆที่มาเรียนที่นี้สามารถใช้ Facilities ต่างๆของมหาวิทยาลัยได้เหมือนกันตอนที่ขึ้นปี 1 หรือเรียน Master เลยค่ะ
ทางเข้ามหาวิทยาลัย University of Reading ค่ะ
ระหว่างทางเดินไปตึก Oncampus Reading ค่ะ
ตอนนั่งรถเข้ามาถึงมหาวิทยาลัยจะเห็นป้ายก่อนสีแดงโดดเด่นชัดเจนมากค่ะ
ตึก Oncampus Reading มีทั้งหมด 2 ชั้นค่ะ ข้างบนจะเป็น Studio workshop, Computer lab และ Classroom สำหรับน้องที่เรียน Art ส่วนข้างล่างจะเป็น Classroom ของน้องๆที่เรียน Business ค่ะ ที่นี่จะไม่ใหญ่มาก ค่อนข้างน่ารัก อบอุ่น เน้น Small Size Class
มาถึง ONCAMPUS Reading กันแล้วค่ะ
ก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปกับป้ายเหมือนเดิมค่ะ
ห้องเรียนสำหรับน้องๆที่เลือกเรียน Foundation in Arts ของที่ University of Reading ค่ะ
ถัดไปเราจะไปดูกันที่ตึก Henley Business School กันค่ะ คณะที่โด่งดังที่เด็กไทยนิยมมาเรียนต่อกันมากๆเลยค่ะ เป็น Business School ที่ก่อตั้งและดำเนินการมามากว่า 70 ปี โดยคอร์สเรียนที่สำคัญได้แก่ Executive Global MBA ซึ่งการเรียนหลักสูตร MBA ที่นี่ ถือว่าเป็น Top 7 ในสหราชอาณาจักร และอันดับ 1 จากการสำรวจความพึงพอใจของนักเรียน จาก Financial Times 2021 สิทธิพิเศษหลังเรียนจบ ยังได้ Connection กับ นักธุรกิจกว่า 80,000 คน ใน 160 ประเทศ ที่พร้อมจะซับพอร์ตในการให้คำปรึกษาด้านหน้าที่การงานและธุรกิจต่างๆอีกนะคะ
ตึก Henley Business School สำหรับน้องที่เรียนในสายด้าน Business และ Finance ต้องมาเรียนที่ตึกนี้เลยค่ะ
บรรยากาศข้างในตอนเดินเข้ามาในตึกค่ะ ข้างบนที่เห็นจะเป็นทางขึ้นใน Classroom ค่ะ
ข้างล่างจะเป็นเหมือน Reception มีนักเรียนมานั่งคุยกันระหว่างรอขึ้น Classroom ค่ะ
Classroom ของที่นี่ส่วนใหญ่จะเน้นเป็น Small Classroom ค่ะ ค่อนข้างอบอุ่นเลยค่ะ
ตั้งแต่พี่เบลล์เดินชมมหาวิทยาลัยมา พี่เบลล์ว่าตึกนี้คือตึกที่ดูทันสมัยที่สุดของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ และตึกก็สวยมากๆเลย ถัดจากตึกนี้ ก็เป็นตึก IMCA คณะ Finance ที่โด่งดังของที่นี้อีกด้วยค่ะ โดยหลายสาขาที่นี้ได้รับการรับรองจาก CFA ด้วยนะคะ เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่เด็กไทยนิยมมาเรียนต่อทางด้าน Finance เลยแหลค่ะ
ที่นี่เค้าเปิดมานานถึง30 ปีแล้วเลยแหละค่ะ ยาวนานมากๆเลยค่ะ
ตึกเรียนที่นี่ค่อนข้างทันสมัยและน่าเรียนมากๆเลยค่ะ
ถัดไปเราพาไปดู ห้องสมุดและโรงอาหารของที่นี่กันค่ะ โรงอาหารของที่นี่ใช้ได้เลยค่ะ แต่จะเป็นอาหารฝรั่งนะคะ อาจจะไม่ถูกปากหลายๆคนแต่ข้างๆกันจะมีร้าน Asian shop อยู่ค่ะ ถ้าใครเบื่อๆ โรงอาหารก็สามารถมา เลือกดูของกินได้ที่นี่เลยนะคะ
โรงอาหารของที่นี่ค่ะ มีให้เลือกหลากหลาย และที่สำคัญราคาถูกสุดๆค่ะ
เมนูอาหารวันนี้ค่ะ
อาหารส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกสปาเก็ตตี้ หรือพาสต้าซะส่วนใหญ่ค่ะ
อาหารที่พี่เบลล์ตักมาทานวันนี้ค่ะ
Supermarket ของที่นี่ค่ะ ถ้าใครเบื่อโรงอาหารก็แวะมาซื้อของกินในนี้ได้เหมือนกันนะคะ
มีทั้งขนมและเครื่องดื่มให้เลือกเยอะเลยค่ะ
ลืมบอกไปที่นี่เขามี Starbuck ด้วยนะคะ
เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นห้องสมุดค่ะ แต่ช่วงนี้นักศึกษากำลังเตรียมตัวสอบ Final กันอยู่ พี่เบลล์เลยพาเข้าไปดูข้างในไม่ได้
ห้องสมุดของที่นี่ค่ะ ค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียวค่ะ
พี่เบลล์แอบถ่ายภาพข้างหน้าทางเข้าห้องสมุดมาให้ดูกันค่ะ
ที่นี่เขามี Museum ด้วยนะคะ ถ้าเบื่อๆก็แวะเข้าไปเดินเล่นกันได้นะคะ
ที่นี่เขาจะเน้นความเป็น Green Campus มากเลยค่ะ
และสุดท้ายพี่เบลล์พามาดูเมือง Reading กันค่ะ ตรงโรงแรมที่พี่เบลล์พักจะค่อนข้างอยู่กลางเมืองเลย และตรงแหล่งช๊อปปิ๊งเลยค่ะ ที่นี่มีครบทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Primark, JD Sport, Masks and Spencer รวมไปถึง TK Maxx ด้วยค่ะ และห้างใหญ่ที่นี่จะเรียกว่า Oracle Shopping Mall ค่ะ
ถนนเส้นนี้ทั้งสองฝั่งจะเต็มไปด้วยร้านค้า Shopping เต็มไปหมดเลยละค่ะ
แวะเข้ามาร้าน JD Sport มีรองเท้าขายทุกรุ่นเลยค่ะ
Lemonadeที่นี่เขามีหลายแบบหลายรสชาติมากเลยค่ะ แถมยังอร่อยอีกต่างหาก
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับมหาวิทยาลัย University of Reading สำหรับน้องๆ ที่ชอบทั้งบรรยากาศมหาวิทยาลัยและเมือง Reading พี่เบลล์ขอแนะนำให้เลยที่นี่เพราะอยู่ห่างจาก London โดยนั่งรถไฟใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น สะดวกมากๆเลยค่ะ นอกจากจะอยู่ใกล้ลอนดอนแล้ว และแหล่ง Shopping ในเมือง ก็เยอะมากๆไม่แพ้กันค่ะ แถมตึก Business School ของที่นี่ทันสมัยสุดๆไปเลยละค่ะ
จบไปหมดแล้วนะคะ กับทริปไปอังกฤษครั้งนี้ของพี่เบลล์ ตอนนี้คงต้องขอปิดฉากอีพีนี้ไปก่อนนะคะ บ้ายบายค่า