Belle’s University Review EP2 : Aston University
ข้อมูลเรียนต่อปริญญาตรี ข้อมูลเรียนต่อปริญญาโท
สวัสดีค่ะน้องๆ กลับมาพบกับพี่เบลล์อีกแล้วค่ะ วันนี้พี่เบลล์ได้รับเกียรติจากทางมหาวิทยาลัย ให้มาเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย Aston University รวมถึงบรรยากาศภายในเมือง Birmingham ด้วยค่ะ โดยบรรยากาศจะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันได้เลยค่ะ
แวะถ่ายรูปกับป้ายมหาวิทยาลัยและคุณ Ross เจ้าหน้าที่ ONCAMPUS Aston ก่อนค่ะเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงมหาวิทยาลัย
Aston University เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่น้องๆเลือกมาเรียนต่อที่นี่ เพราะนอกจากที่จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง Birmimgham ที่ถือได้ว่าเป็นเมืองใหญ่ที่สุด และ ประชากรเยอะที่สุดแล้ว ที่นี่ยังเป็นเมืองอันดับสอง รองจากลอนดอนอีกด้วยค่ะ และได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีสีสันมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษเลยค่ะ เพราะมีกิจกรรมให้ทำมากมากอย่างเช่น แหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน การเดินทางท่องเที่ยว วัฒนธรรม กีฬา และแหล่งช็อปปิ้ง ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปได้จากมหาวิทยาลัยและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้นค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังโดดเด่นทางด้าน Business อีกด้วยโดยมหาวิทยาลัย Aston University นั้น ได้ Tripple Accreditations จากAACSB, AMBA และ EQUIS สุดยอดไปเลยใช่ไหมคะ
อ่ะแฮ่ม ขอเกริ่นประวัติคร่าวๆ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยกันก่อนนะคะ Aston University เดิมทีแล้วมีชื่อว่า Municipal Technical School ก่อนจะกลายมาเป็น Aston University ในปีค.ศ. 1966 ค่ะ ที่นี่ ได้รับการประเมินเป็นระดับ TEF Gold เลยนะคะ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่มีการประเมินคุณภาพการสอนของมหาวิทยาลัยทั่วสหราชอาณาจักรที่รัฐบาลอังกฤษเป็นผู้ประเมินค่ะ อย่าเสียเวลากันดีกว่าค่ะ น้องๆพร้อมจะไปดูบรรยากาศมหาวิทยาลัยกันหรือยังคะ
มาเริ่มแรกกันเลยค่ะ พี่เบลล์เดินจากโรงแรมที่พี่เบลล์พักอยู่ก็ถึงมหาวิทยาลัยแล้วค่ะ เพียงแค่ 5 นาทีเอง ตอนแรกก็แอบช็อคเหมือนกันค่ะ พอเจ้าหน้าที่บอกว่าวันนี้จะพาเดินไปมหาวิทยาลัย แต่ใกล้ๆมากๆเลยค่ะ เพราะมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใจกลางเมือง Birmingham เลย ที่พี่เบลล์ชอบเลยคือ จากมหาวิทยาลัยเดินไปในเมืองที่เป็นแหล่ง Shopping ของที่นี่ ก็ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นค่ะ ใครที่ชอบอยู่ในเมือง เป็น City girl จะต้องชอบที่นี่แน่ๆค่ะ พี่เบลล์รับรอง
จากรูปที่วงกลมอยู่คือมหาวิทยาลัย Aston University เองค่ะ
ตึก Main Building ค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นตึกที่ใช้เรียนเป็นหลักที่นี่เลยค่ะ
ทางเข้า Main Building ค่ะ
มาเริ่มแรก พี่เบลล์จะพามาดู Oncampus Aston กันก่อนเลย ที่นี่จะเป็นเซ็นเตอร์ที่ดูแลนักเรียนต่างชาติรวมถึงนักเรียนไทยด้วยค่ะ ทั้งน้องๆที่มาเรียน Foundation หรือ International Year One ในปีแรกก็จะต้องเรียนเฉพาะกับเด็กอินเตอร์ที่นี้ก่อนค่ะ แล้วปีต่อไปจึงจะไปเรียนกับเด็กอังกฤษ โดย Oncampus Aston จะตั้งอยู่ที่ ชั้น 5 ของ Main building ของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ซึ่งน้องๆนักเรียนที่มาเรียนที่นี่สามารถ Access ได้ทุก Facilities ของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ อย่างตอนนี้ที่พี่เบลล์ เจ้าหน้าที่ก็พาไปดูทุกตึก และทุกห้องของมหาวิทยาลัยเหมือนกันค่ะ
ทางเข้า Oncampus Aston ค่ะ จะตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ของตึก Main Building ค่ะ
Classroom ค่ะ แต่ตอนที่พี่เบลล์ไปช่วงสอบพอดีเลยต้องมีการจัดโต๊ะแบบนี้ค่ะ
ห้องเรียนกว้างมากๆเลยค่ะ
ตึกที่นี่ค่อนข้างสูง แล้วก็งงมากเลยค่ะ พี่เบลล์มาเดินถึงกับเดินหลงเลย โดยตึกที่นี่จะแบ่งเป็นโซนตามตัวอักษรและเป็นชื่อเรียกตามทิศนะคะ ก็คือจะมี North wing, South wing และ A,B,C,D,E,F,G ค่ะ และก็มีทั้งหมด 9 ชั้นค่ะ เจ้าหน้าที่แอบกระซิบมาว่า นักเรียนมาเรียนที่นี่ 2-3 อาทิตย์แรกก็หลงกันทั้งนั้นเลยค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ หลงแน่นอน ขนาดเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเองยังเดินหลงเลยค่ะ
The Hub หรือ Student Support ถ้าน้องๆมีปัญหา ก็สามารถเดินเข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ตรงนี้ได้เลยค่ะ
Student Union ค่ะ อีกหนึ่งที่ Hang out ของนักเรียนที่นี่ ข้างในจะมีอาหารและเครื่องดื่มขายด้วยนะคะ
ช่วงที่พี่เบลล์ไปน้องๆ International Year One สาขา Mechenical Engineering ทำโปรเจคเอารถที่ตัวเองประดิษฐ์มาแข่งพอดีเลยค่ะ เลยได้เห็นผลงานน้องๆกันด้วย ที่นี่ทุกปีจะให้น้องๆ เอารถที่ตัวเองประดิษฐ์มาลงสนามแข่งกันค่ะ ใครวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนก็จะชนะไป น่าสนุกสุดๆไปเลยค่ะ ที่สำคัญไม่ได้แข่งขำๆนะคะ มีรางวัลให้น้องๆที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่งด้วยค่ะ
รถที่น้องๆประดิษฐ์และใช้แข่งค่ะ สนามแข่งจะอยู่ตรง Lake ของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ
รูปทรงก็จะแตกต่างกันไป เพราะน้องๆเป็นคนดีไซน์เองค่ะ
ในระหว่างที่เดินชมมหาวิทยาลัย ก็เจอกับอาจารย์ที่นี่พึ่งเดินออกมาจากห้อง Lab พอดี เห็นใส่เสืื้อ Coat ดูเท่สุดๆเลยค่ะ ที่นี่จะแบ่งอาจารย์กับนักเรียนตามสีเสื้อ Coat ค่ะ ถ้าเป็นอาจารย์จะใส่สีม่วงซึ่งเป็นสีของมหาวิทยาลัย ส่วนถ้าเป็นสีขาวจะเป็นของนักเรียนค่ะ
Professor แวะมาทักทายก่อนที่จะกลับเข้าไปสอนต่อค่ะ
ห้อง Lab ที่นี่ใหญ่มากๆเลยค่ะ
น้องๆที่ต้องเรียน Science ก็ต้องมาเรียนที่ห้องแล็บนี้ค่ะ
สำหรับน้องๆที่อยากเข้าคณะ Phamacy ที่นี่ก็มีเหมือนกันนะคะ พอเข้ามาในส่วนของคณะ Health and Life sciences แล้ว เจ้าหน้าที่ก็พาไปเดินดูห้อง Lab ต่างๆค่ะ Facilities ค่อนข้างดีและทันสมัยมากๆเลย มีหุ่นจำลองให้น้องๆได้ฝึกปฏิบัติด้วย ที่นี่ค่อนข้างที่จะเน้นเรื่องการนำทักษะจากในห้องเรียนไปใช้ในชีวิตจริงมากกว่า อ่านจากหนังสือเรียนค่ะ ถ้าน้องๆคนไหนที่ชอบการเรียนการสอนแบบนี้ ก็น่าจะถูกใจสุดๆไปเลยค่ะ
Practice room ห้องนี้สำหรับน้องๆที่เรียนแพทย์เข้ามาใช้งานคะ ดูๆแล้วเหมือนของจริงเลยใช่ไหมคะ
ไฮไลท์คณะที่โด่งดังของที่นี่น่าจะเป็น Business School เลยค่ะ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1947 ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Business School ที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษเลยค่ะ ที่นี่เค้าได้รางวัล Tripple Accreditations ด้วยนะคะ ซึ่งความพิเศษจะอยู่ตรงที่มีสถาบันและมหาวิทยาลัยเพียง 1% ของโลกเท่านั้นค่ะ ตึก Business School ที่นี่เค้าเปิดเป็นโรงแรมด้วยนะคะ ชื่อว่า Conference Aston ค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่ที่มาส่งน้องๆ หรือมาเยี่ยมน้องๆ พักที่นี้ก็ค่อนข้างสะดวกสบายมากเลยค่ะ
ตึกนี้จะอยู่ทางเข้าหน้าสุดของมหาวิทยาลัยเลยค่ะ มีทั้ง Business and Law School เลย
ตรงนี้จะเป็น Study Zone สำหรับน้องๆที่ต้องการมาทำงานกลุ่ม หรือ Discussion กันค่ะ
EQUIS Accreditation ค่ะ
AACSB Accreditation ค่ะ
AMBA Accreditation ค่ะ
ต่อมาพี่เบลล์ก็จะพาไปดูหอพักของที่นี่กันนะคะ หอที่พี่เบลล์ไปอยู่ในแคมปัสมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ตรงข้ามกับ Main Building เดินไปไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ไม่ต้องกลัว ว่าจะตื่นไปเรียนไม่ทัน เพราะว่าใกล้สุดๆไปเลยค่ะ หอที่นี่จะเป็นแชร์ห้องครัว แต่มีห้องนอนและห้องน้ำเดี่ยวแยกแต่ละห้องนะคะ ห้องขนาดพอดีสำหรับอยู่คนเดียวเลยค่ะ ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ที่นี่ Flat 1 Flat จะแชร์อยู่ประมาณ 5-7 คนค่ะ
Common Room จะมีโต๊ะปิงปอง และตู้กดขนมและน้ำค่ะ
Study room
Bedroom ค่ะ จะเป็นเตียงเดี่ยวและมีโต๊ะเขียนหนังสือ
Laundry room ข้างล่างจะเป็นเครื่องซักผ้า ส่วนข้างบนจะเป็นตู้อบค่ะ
หลังจากเดินชมมหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว ก็ขอแวะเข้ามาเดินชมในเมืองบ้างค่ะ ระหว่างทางเดินก็เจอหอพักของมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ ทุกอย่างสามารถเดินไปได้หมดเลย พี่เบลล์ชอบมากๆเลยแหละค่ะ ที่นี่มีสถานีรถไฟที่ใหญ่มากๆเลยค่ะ ชื่อว่า Birmingham New Street สำหรับน้องๆที่ต้องการไปเที่ยงต่างเมืองก็มาขึ้นรถไฟที่นี่ได้เลยนะคะ นอกจากจะเป็นสถานีรถไฟแล้วที่นี่ยังมีร้านอาหารและของขายเพียบเลยค่ะ สำหรับมื้อเที่ยงพี่เบลล์มากินเฝอที่นี่ค่ะ อร่อยมาก รสชาติจัดจ้าน ถูกใจน้องๆที่คิดถึงอาหารไทยแน่นอน จริงๆเมือง Birmingham ตอบโจทย์สำหรับๆน้องที่ชอบอยู่ในเมือง แต่ไม่อยากอยู่เมืองที่ค่าครองชีพสูงอย่าง London ที่นี่คือมีทุกอย่างเลยค่ะ ไม่เหงาแน่นอน
Aston University Accommodation ค่ะ
เดินผ่านก็แอบงงเหมือนกันค่ะ ทำไมหมากรุกใหญ่ขนาดนี้ เขาเล่นกันจริงจังมากเลยค่ะ ว่าไม่ได้เลยทีเดียว
New Street Station ถ้าน้องๆจะนั่งรถไฟไปเที่ยวที่เมืองต่างๆน้องๆจะต้องมาขึ้นที่นี่เลยค่ะ
มุมหน้าห้าง Bull ring shopping centre ข้างหลังจะเป็น โบสถ์ St.Matin’s ค่ะ
แอบคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวต้มยำเหมือนที่เมืองไทยเลยค่ะ
ไ่ก่ทอดที่นี่ ต้องกินกับซอสศรีราชานะคะ
จริงๆแหล่ง Shopping ที่นี่ค่อนข้างใหญ่มาก และมีทุกอย่างเหมือนกับ London เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Brandname ชั้นนำต่างๆ หรือ จะเป็นร้านอาหารก็มีให้เลือกหลากหลายมากค่ะ ใครที่ชอบ City Campus จะต้องหลงรักเมือง Birmingham แน่นอนเลยค่ะ พี่เบลล์การันตีอีกหนึ่งเสียง
City Centre ของที่นี่ค่ะ สาย Shopping ห้ามพลาดเลยนะคะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับมหาวิทยาลัย Aston University สำหรับน้องๆ ที่ชอบทั้งบรรยากาศมหาวิทยาลัยและเมือง Birmingham พี่เบลล์ขอแนะนำให้เลยที่นี่ตอบโจทย์มากๆเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการเดินทางไปมหาวิทยาลัย และแหล่ง Shoppingในเมือง Facilities ที่ทันสมัยของมหาวิทยาลัย ห้ามพลาดเลยนะคะ
มาดูกันว่าคราวหน้าพี่เบลล์จะพาไปเยี่ยมชมหาวิทยาลัยที่ไหนในอังกฤษอีก อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ ตอนนี้คงต้องขอปิดฉากอีพีนี้ไปก่อนนะคะ บ้ายบายค่า