Add Line
Lemon’s University Review EP07: Bellerbys College Brighton
ข้อมูลโรงเรียนข้อมูลเรียนต่อแพทย์ Elite Medic
สวัสดีค่ะ มาพบกันพี่เลม่อนอีกแล้วนะคะ บล๊อคนี้เปลี่ยนบรรยากาศมารีวิว College หรือโรงเรียนที่ประเทศอังกฤษกันบ้างค่ะ ครั้งนี้พี่ก็มีโอกาสไปได้เยี่ยม Bellerbys College ที่ Brighton ซึ่งเป็น Main Campus ของเค้าเลยค่ะ บรรยากาศโรงเรียนจะเป็นอย่างไร ตามไปดูกันเลยค่ะ
Bellerbys College Brighton ตั้งอยู่ที่ 1 Billinton Way, Brighton BN1 4LF ซึ่งจะอยู่ห่างจาก Brighton Train Station เพียง 5 นาทีโดยการเดินเท่านั้นค่ะ สะดวกมากๆเลย หรือถ้าน้องๆที่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่มา ก็สามารถใช้บริการ Airport Pick Up ของที่โรงเรียนได้เลยค่ะ ช่วงที่พี่มา จะเป็นช่วงซัมเมอร์ค่ะ ก็จะมีนักเรียนไม่มาก เฉพาะนักเรียนที่มาเรียนซัมเมอร์ และนักเรียน Foundation กับ A-Levels ที่ยังสอบไม่เสร็จ ก็จะเป็นช่วงสอบพอดีค่ะ บรรยากาศด้านหน้าโรงเรียนใหญ่โตมากๆเลยค่ะ ตึกด้านหน้านี้จะเป็นส่วนของตึกเรียน และส่วนด้านหลังจะเป็นหอพักสำหรับนักเรียนค่ะ
เข้ามาในโรงเรียนก็จะเป็นโถงที่มี Reception อยู่ข้างหน้าค่ะ ถ้าเป็นนักเรียนก็จะสามารถใช้บัตรนักเรียนแตะเพื่อเข้าโรงเรียนได้เลย แต่ถ้าเป็นคนนอกที่มาติดต่อโรงเรียน หรือนักเรียนใหม่ก็จะต้องแจ้งทาง Reception ก่อนค่ะ ทาง Staff จะให้เราลงชื่อแล้วก็จะให้บัตร Visitor มาค่ะ พอเข้ามาแล้วจะเจอ Hall of Frame ที่เป็นบอร์ดที่แปะรูปนักเรียนของ Bellerbys ที่มีผลการเรียนที่ดี เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของประเทศอังกฤษได้ค่ะ มีนักเรียนไทยแปะอยู่ที่บอร์ดค่อนข้างเยอะเลยค่ะ รวมถึงทำเนียบรายชื่อนักเรียนที่สามารถสอบเข้า Oxford & Cambridge ได้ด้วยค่ะ คุณภาพการเรียนการสอนที่นี่ไม่ธรรมดาจริงๆค่ะ ฝั่งตรงข้าม Reception ก็จะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ มีขายกาแฟ ช๊อคโกแลต แซนด์วิช ขนมเล็กๆน้อยๆให้กับนักเรียนค่ะ
ตึกเรียนที่นี่จะมีทั้งหมด 5 ชั้น (ชั้น 0 – ชั้น 5)โดยแต่ละชั้นจะแบ่งตามสาขาวิชาที่เรียนค่ะ โดยชั้น 4 ชั้นที่สูงที่สุดจะเป็นชั้นที่เราไปดูเป็นที่แรกเลย จะเป็นของ Art Faculty และ Library ค่ะ การเรียน Art ที่นี่มีทุกแขนงที่นักเรียนสนใจเลยค่ะ มีทั้งศิลปะการวาดรูป เพ้นท์รูป การถ่ายรูป ล้างรูป อาจารย์เล่าให้พี่ฟังว่าสมัยนี้มีเทคโนโลยีเข้ามา การล้างรูปอาจจะไม่ค่อยใช้แล้ว แต่ถ้านักเรียนที่สนใจเรียนการถ่ายรูปจริงๆ ที่นี่ก็จะสอนให้ทุกอย่างแบบดั้งเดิมค่ะ นอกจากนี้ยังมี Media Studio ซึ่ง Facilities ที่นี่มีครบเหมือนเรียนในมหาวิทยาลัยเลยค่ะ
อีกฝั่งนึงของ Art Faculty จะเป็น Library ค่ะ ซึ่ง Library ที่นี่ค่อนข้างกว้างค่ะ มีหนังสือให้นักเรียนได้เข้ามาหาความรู้ มีโซนสำหรับนั่งอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนด้วยค่ะ
ต่อมาเราก็เดินลงมาที่ชั้น 3 ค่ะ ชั้นนี้จะมีที่นั่งสำหรับนักเรียนค่อนข้างเยอะ เพราะตึกเขาจะเป็นตึกกระจกที่สามารถของเห็นวิวของ Brighton ได้เลยค่ะ นักเรียนนิยมนำอาหารมาทานที่นี่ จะได้บรรยากาศแบบชิลๆกับเพื่อนๆเลยค่ะ อีกฝั่งนึงของชั้น 3 ก็จะเป็นห้องเรียนของ Math & IT Faculty ค่ะ ห้องเรียนที่นี่จะเป็นคลาสที่ค่อนข้างเล็ก ห้องนึงไม่เกิน 12 คน เพื่อที่นักเรียนจะได้รับความรู้อย่างเต็มที่ และใกล้ชิดกับอาจารย์ค่ะ นอกจากนี้ยังมี Media Room ซึ่งเป็นห้องที่สอนโปรแกรมเกี่ยวกับ Media ทั้งหมดค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมี IT Suite สำหรับน้องที่เรียนด้าน Information Technology โดยเฉพาะด้วยค่ะ
ต่อมาเราก็ลงมาที่ชั้น 2 กันค่ะ ซึ่งเป็นส่วนของ English Faculty สำหรับน้องๆที่สนใจเรียนด้านภาษาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ชั้นนี้ก็จะเป็นห้องเรียนธรรมดาค่ะ แต่มีห้องที่ค่อนข้างเล็กเพราะจะมีคลาสที่เป็น 1 to 1 เยอะค่ะ
ส่วนชั้น 1 จะเป็น Business Faculty, Humanities Faculty และ Science Faculty ค่ะ ชั้นนี้จะรวมหลายสาขาเลย โดยทางฝั่ง Business, Humanities ก็จะเป็นห้องเรียนค่ะ แต่โต๊ะเรียนมักจะให้นักเรียนนั่งเป็นคู่ เพื่อทำกิจกรรมในห้องเรียน เช่นบางครั้งอาจารย์จะให้จับคู่กันทำ Presentation หรือผลัดกันถามตอบ เพื่อที่นักเรียนจะได้ปรึกษากัน ฝึกการทำงานเป็นทีมค่ะ
ส่วนของ Science Faculty ที่นี่จะมีห้อง Labs ทั้งหมด 8 ห้อง โดยจะอยู่ที่ชั้นหนึ่ง 4 ห้อง และชั้นศูนย์อีก 4 ห้องค่ะ ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว นักเรียนที่สนใจเรียนสาขาวิทยาศาสตร์จะได้ใช้ห้อง Labs จริงๆ อย่างแน่นอนค่ะ
จากนั้นก็พาไปดูส่วนของห้องอาหารในโรงเรียนค่ะ ซึ่งจะอยู่ชั้นล่างของตึกหอพัก ห้องอาหารที่นี่นักเรียนสามารถมาทานได้ทุกมื้อ ตั้งแต่เช้า กลางวัน เย็นเลยค่ะ นักเรียนที่จ่ายค่าอาหารล่วงหน้าไปแล้ว สามารถใช้บัตรนักเรียนในการมาทานที่นี่ได้เลยค่ะ (ถ้าจ่ายแบบ Full Board ทานได้ 3 มื้อ หรือ Half Board ทานได้ 2 มื้อเช้ากับเย็นค่ะ) อาหารของที่นี่มีหลากหลายประเภทมากเลยค่ะ แต่ละอาทิตย์ก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีอาหารนานาชาติ มีขนม น้ำ ผลไม้ให้ทาน ที่นั่งทานอาหารก็เยอะมากค่ะ ห้องอาหารกว้างขวางมากเลยทีเดียว
ฝั่งตรงข้ามห้องอาหารจะเป็น Student Common Room เป็นคล้ายห้องนั่งเล่นของนักเรียนค่ะ จะมีโต๊ะอ่านหนังสือทั้งแบบเดี่ยว แบบกลุ่ม มีคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนใช้ มีโต๊ะหมากฮอส เทนนิส รวมถึงเปียโนให้นักเรียนเล่นด้วยค่ะ ในนี้ก็จะมีร้านสะดวกซื้อเล็กๆที่มีของครบทุกอย่าง ทั้งอุปกรณ์การเรียน ขนม น้ำ อุปกรณ์ในการดำรงชีวิต เช่นผงซักฟอก แปรงสีฟัน ยาสีฟัน เรียกได้ว่าไม่ต้องเดินเข้าเมืองเลยค่ะ
เสร็จแล้วเราก็ขึ้นไปดูหอพักกันค่ะ ห้องพักของเด็กเล็กที่นี่จะแบ่งตามเพศค่ะ โดยภายในหอเดียวกันก็จะเป็นเด็กเพศเดียวกันค่ะ เวลาเข้าหอพักก้จะใช้บัตรนักเรียนแปะเข้าค่ะ บัตรของเราก็จะเข้าหออื่นไม่ได้ และบัตรของคนอื่นก็จะเข้าหอเราไม่ได้เช่นกันค่ะ เรียกว่าค่อนข้างปลอดภัยเลยทีเดียว ห้องพักจะเป็นแบบ En-Suite มีห้องนอนและห้องน้ำส่วนตัว ขนาดถือว่าไม่เล็กมากเมื่อเทียบกับหอพักที่อื่นๆนะคะ น่าอยู่มากเลยทีเดียวค่ะ
จากนั้นก็ลงมาดูห้องพยาบาลและห้องซักผ้าค่ะ ที่นี่จะมีทั้งตู้ซักผ้า และที่อบแห้ง เสื้อผ้าเราไม่ต้องตากเลยค่ะ ซักแห้งแล้วก็สามารถใส่ได้ทันที สำหรับน้องๆที่ไม่เคยซักผ้าด้วยตัวเอง หรือไม่แน่ใจวิธีการใช้เครื่องซักผ้า ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ สามารถติดต่อที่ Accommodation Office ได้เลยค่ะ จะมีสต๊าฟมาช่วยแนะนำให้ค่ะ เดินถัดออกมาก็จะเป็น Medical Room ค่ะ ถ้านักเรียนรู้สึกไม่สบาย สามารถมาหาหมอที่นี่ได้ค่ะ
ทัวร์โรงเรียนครบแล้วเราก็จะพาเดินเข้าเมือง Brighton กันค่ะ ซึ่งจากโรงเรียนสามารถเดินไป Brighton City Centre รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้เลยค่ะ ทั้ง Brighton Pier, Beach, Royal Pavillion ถือว่าสะดวกมากเลยค่ะ
เดินจากโรงเรียนมาถึงสถานีรถไฟ Brighton แล้วเดินทะลุออกจากอีกด้านนึงของสถานีก็จะเป็นตัวเมืองแล้วค่ะ เดินตรงไปตามทางยาวประมาณ 25 นาที ก็ถึงทะเลแล้วค่ะ ระหว่างทางก็คือเป็นตัวเมืองแล้วนะคะ มีร้านอาหาร ร้านขายของเอเชีย ร้านชา กาแฟ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เรียกได้ว่าครบจริงๆค่ะ
ส่วนชายหาดของที่ Brighton นี้จะเป็นหาดหินนะคะ จะไม่เป็นหาดทรายเหมือนบ้านเรา หากน้องๆมีโอกาสได้ไปเรียนที่นี่ อย่าลืมที่จะไปเดินเล่นแถวชายหาดด้วยนะคะ บริเวณชายหาดก็จะมี Brighton Pier ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีลักษณะเหมือนสวนสนุก ทางเข้าก็จะมีขายของกินแบบเบาๆ เข้าไปก็จะเจอตู้เกมส์ต่างๆ ส่วนด้านในสุดก็จะเป็นสวนสนุกค่ะ ซึ่งก็ถือเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเช่นกันค่ะ เดินขึ้นมาฝั่งตรงข้าม Pier ประมาณ 5 นาทีก็จะมี Royal Pavilion ซึ่งเป็นอดีตพระตำหนักพักร้อนของกษัตริย์อังกฤษ ที่เดมทีสร้างเป็นวิลล่าริมทะเล ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นอาคารที่โอ่อ่า ประกอบไปด้วยโดม หอสูง หลังคาโค้งแบบสุเหร่าที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะของจีนและอินเดีย เป็นพระตำหนักที่มีลักษณะแปลกตากว่าพระราชวังอื่นๆในอังกฤษมากเลยค่ะ
นอกจากนี้ Brighton City Centre ยังมีห้างใหญ่ชื่อ Churchill Square Shopping Centre ที่มีทั้งร้านเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า เครื่องประดับ รวมถึงร้านอาหาร เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มาเรียนที่เมืองนี้ไม่น่าเบื่อแน่นอนค่ะ ร้านอาหารที่มีก็ไม่ได้มีเพียงแต่อาหารอังกฤษเท่านั้น อาหารเอเชีย อาหารอิตาลีก็มีค่ะ นอกจากนี้ยังมีถนน North Laine ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆตลาดนัดบ้านเราค่ะ มีขายของกิน งานแฮนด์เมดต่างๆ และเนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยว บรรยากาศภายในเมืองก็จะค่อนข้างคึกคักทีเดียวค่ะ เป็นเมืองที่มาแล้วจะต้องประทับใจแน่นอนค่ะ
สำหรับวันนี้พี่ก็นำบรรยากาศของ Bellerbys College Brighton และบรรยากาศภายในเมือง Brighton มาฝากเพียงเท่านี้ หากน้องๆสนใจเรียนต่อที่ Bellerbys College สามารถติดต่อพี่ๆ EFL UK ตัวแทน Bellerbys College อย่างเป็นทางการ บริการฟรีทุกขั้นตอน ตั้งแต่สมัครเรียน จองหอพัก จองรถรับส่ง ทำวีซ่า หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ Line:@EFLUK (มี @ ด้วยนะคะ) หรือโทร. 02-1293134-35, 097-1400527 ได้เลยค่ะ
